ทำมาหากินไม่ได้ 2 เดือนแล้ว บางบาล สุดทน วอนแก้น้ำท่วมเป็นระบบ

คุณเรณู กสิกุล แกนนำชาวบ้าน ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ร้องเรียนว่า เวลานี้ ชาวบ้านใน ต.บางชะรี ต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพน้ำท่วมขัง จนต้องมาอาศัยบนท้องถนน นานกว่า 2 เดือน โดยปริมาณน้ำท่วมปีนี้สูงกว่าปี 2554 แล้ว ทั้งที่ปริมาณน้ำสะสมยังน้อยกว่าปี 2554 มาก และยังต้องเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำจากภาคเหนือลงมาอีกในอีกไม่ช้านี้

ซึ่งที่ผ่านมา การบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนจากปริมาณน้ำในบางพื้นที่เกือบ 4 เมตร ทั้งที่บ้านส่วนใหญ่ชาวบ้านลงทุนดีดเพื่อให้พ้นน้ำ ก็ยังไม่พ้น พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ทำมาหากินไม่ได้มา 2 เดือนแล้ว หลายคนล้มป่วยและเครียด พวกเราไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะผู้นำเอง ก็แก้ปัญหาด้วยการปล่อยให้ชาวบ้านทะเลาะกันเอง เรื่องการปิดเปิดน้ำ

พวกเราจึงจำเป็นต้องมาขอพระราชทานความช่วยเหลือจากในหลวง ขอพระองค์ทรงพระเมตตาต่อประชาชนชาวบางบาลด้วย  เราอยากถวายฎีกา แต่พวกเราก็ความรู้น้อยทำกันไม่เป็น ก็ได้แต่วอนขอผ่านสื่อมวลชนแบบนี้

“พวกเราขอบคุณสำหรับกำลังใจของทุกท่าน และของแจกที่ท่านส่งมาช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ต้องการ คือ การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เราต้องเผชิญน้ำท่วมแบบไม่เป็นธรรมมาเป็นสิบปี บางบาล ต้องเป็นเมืองรับน้ำ ทั้งที่ไม่เคยเห็นคำสั่งแต่งตั้งใดๆ จากทางราชการ เงินชดเชยเพียงน้อยนิด ไม่สามารถนำมาทำอะไรได้ ที่ผ่านมาชาวบ้าน ต้องดิ้นหาทางและซ่อมแซมกันเอง” คุณเรณู ขอความเห็นใจ

ด้าน คุณชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หากมีการระบายน้ำก่อนตั้งแต่ต้นชาวบ้านก็จะไม่เจอน้ำท่วมสูงขนาดนี้ ซึ่ง11 ปีหลังจากมีน้ำท่วมใหญ่ น่าจะมีการเรียนรู้ และไม่อยากให้คิดว่า อ.บางบาล เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพราะทุกปีระดับน้ำก็สูงมาก และใน 12 เดือน ชาวบ้านต้องอยู่กับน้ำนานถึง 4 เดือน จึงควรมีการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน

“การจะเปิดประตูน้ำแต่ละครั้ง ชาวบ้านต้องไปโห่ร้อง ต้องไปมีเรื่อง ต้องอาละวาด ต้องใช้คำหยาบคายกัน สุดท้ายก็เปิดได้ แต่ทำไมผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงไม่คิดจะแบ่งเบาความทุกข์นี้ก่อนจะถึงจุดนั้น ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าน้ำมีที่ไป” คุณชูเกียรติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้โรงเรียนบางบาล ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในเขต ต.บางบาล อ.บางบาล ครู นักเรียน และชาวบ้านช่วยกันนำกระสอบทรายมาเสริมคันดินกั้นน้ำให้สูงขึ้น เนื่องจากปริมาณในปีนี้มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่าพื้นโรงเรียนเกือบ 3 เมตร มีน้ำซึมเข้าโรงเรียนเป็นบางช่วง ต้องเร่งสูบออก

และบริเวณด้านหลังโรงเรียน กระแสน้ำเชี่ยวหนัก การสัญจรไปมาเป็นไปอย่างยากลำบาก สิ่งที่น่ากังวลคือน้ำกัดเซาะคันดินทั้งด้านหน้าและหลังโรงเรียน ครู นักเรียน จึงต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง