5 สัญญาณเตือน คุณเริ่มมี หนี้ เยอะเกินไป จนอาจจ่ายไม่ไหว หรือเปล่า?

รีบเช็กก่อนสาย! 5 สัญญาณเตือน คุณเริ่มมี หนี้ เยอะเกินไป จนอาจจ่ายไม่ไหว หรือเปล่า?

ปัญหา หนี้สิน เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งจากสภาวะทางเศรษฐกิจก็ดี โรคภัย ความมั่นคงของประเทศ หรือการจับจ่ายใช้สอยที่เกินตัว ที่อาจจะช้อปเพลินเกินห้ามใจ รู้สึกตัวอีกทีก็เริ่มมีปัญหาด้านการเงินเสียแล้ว

แต่ก่อนที่เราจะมีสถานะ หนี้ท่วม เว็บไซต์ เกียรตินาคินภัทร ได้เปิดสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่า คุณเริ่มมีหนี้มากเกินไปจนอาจทำให้จ่ายหนี้ไม่ไหว ดังนี้

สัญญาณที่ 1 : ใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บ

ปัญหาใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เป็นปัญหาสุดจะคลาสสิคของมนุษย์เงินเดือน เงินเดือนเข้าปุ๊บก็เตรียมจ่ายเลย บางทีก็หมุนเงินทันบ้างไม่ทันบ้างแล้วแต่สภาพคล่องในเดือนนั้นๆ อาการแบบนี้เรียกได้ว่า ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่มีเงินเหลือ ไม่มีเงินเก็บ และใช้รายได้มากกว่า 70% ไปกับการชำระหนี้

สัญญาณที่ 2 : การเริ่มจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ

การจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำทุกๆ เดือน เป็นอาการเริ่มต้นของคนที่เริ่มมีปัญหาด้านการเงิน แสดงว่าเราใช้จ่ายเงินจนเกินตัวจึงต้องจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำแทน อย่างที่ทราบกันว่าอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงมากหรือสูงกว่า 20% ต่อปี เมื่อรวมๆ ดอกเบี้ยแล้ว อาจทำให้เราตกใจได้แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว คนส่วนใหญ่มักจะมองเพียงแค่ระยะสั้นเดือนต่อเดือนเท่านั้น ขอแค่มีจ่ายขั้นต่ำก็พอแล้ว แต่ในความเป็นจริงเราควรมองระยะยาวว่า การจ่ายขั้นต่ำจะทำให้มีต้นทุนทางการเงินเพิ่ม เพราะต้องจ่ายทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สัญญาณที่ 3 : การยอมขายทรัพย์สินต่างๆ

การยอมขายทรัพย์สินต่างๆ เช่น หุ้น กองทุน ทอง อสังหาริมทรัพย์ หรืออะไรก็ตามที แสดงว่าเรากำลังร้อนเงินถึงกับต้องตัดใจยอมขายทรัพย์สินเหล่านี้ไปทั้งที่ไม่อยากขาย เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินไปใช้อะไรบางอย่าง เช่น จ่ายหนี้ ใช้จ่ายอื่นๆ หรือนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะว่ามีเงินเหลือไม่พอใช้

สัญญาณที่ 4 : เริ่มชำระหนี้ล่าช้า

การเริ่มชำระหนี้ต่างๆ ล่าช้า เป็นสัญญาณเตือนที่สะท้อนได้ว่าคุณเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว ถ้ายังผ่อนไม่ตรงเวลาตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนดจะทำให้เสียเครดิต และอาจมีปัญหาตามมาอีกมากมาย เพราะฉะนั้น ควรรีบหาทางแก้ก่อนจะสายเกินไป

สัญญาณที่ 5 : ยืมเงินจากเจ้าหนึ่งเพื่อไปจ่ายอีกเจ้าหนึ่ง

พฤติกรรมแบบนี้แสดงว่าหมุนเงินไม่ทันแล้ว ถึงขั้นต้องไปยืมเงินคนอื่นๆ บางทีไมใช่แค่เรื่องเงิน แต่อาจต้องเสียเพื่อน เสียญาติพี่น้อง หรือผิดใจกับคนรักกัน เพราะเรื่องของการยืมเงินแล้วไม่คืนตามที่ตกลงไว้ หรือบางคนนิยมเปิดบัตรกดเงินสดหลายใบเพื่อนำเงินจากเจ้าหนึ่งไปจ่ายปิดหนี้อีกเจ้าหนึ่งไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่าการทำแบบนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ยก็ยิ่งทวีคูณทบขึ้นไปอีก หรือยิ่งไปกว่านั้นบางคนยอมไปกู้หนี้นอกระบบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยมหาโหดมาก แถมยังเสี่ยงอันตรายอาจมีคนตามมาทวงหนี้ถึงหน้าบ้านได้ หากจ่ายหนี้ไม่ตรงเวลา