หมอดู อาชีพโตสวนเศรษฐกิจ แนะสังเกต แบบไหนของจริง ของปลอม

หมอดู อาชีพโตสวนเศรษฐกิจ แนะสังเกต แบบไหนของจริง ของปลอม

หมอดู หนึ่งอาชีพที่คนให้ความสนใจเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยเป็นอาชีพของคนเฉพาะกลุ่ม กลายมาเป็นใครก็สามารถศึกษาได้ บางคนเรียนแค่วันเดียว ก็สามารถเป็นหมอดูได้แล้ว โดยเฉพาะการดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ทาโรต์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ในทุกเพศ ทุกวัย

คุณผึ้ง หรือที่วงการรู้จักกันในวงการว่า “ทิพย์มนตรา” ก็เป็นคนหนึ่งที่ยึดอาชีพหมอดูไพ่ทาโรต์มาเกือบ 20 ปี จากนักธุรกิจสาวอนาคตไกล ชีวิตผกผันอย่างคาดไม่ถึงต้องมาเป็นหมอดู แต่เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว ก็มีความตั้งใจทำอย่างเต็มที่ และซื่อสัตย์ต่อลูกดวง ซึ่งเธอมองว่าทุกคนที่มาหา ก็ล้วนแต่มีปัญหา ต้องการคำชี้แนะ และแนวทางแก้ไขเกือบทั้งสิ้น

หมอดูที่ดีจึงควรมีคุณธรรมและซื่อสัตย์ ไม่หาประโยชน์อื่นนอกเหนือไปจากค่าครู ซึ่งหมอดูแต่ละคนก็คิดราคาไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่า หมอดูที่คิดค่าครูแพง จะเก่งและดีกว่าหมอดูที่คิดราคาถูก หมอดูบางคนอาจต้องการช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก จึงคิดราคาที่ลูกดวงสามารถจ่ายได้ และตัวหมอดูเองก็อยู่ได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า ในช่วงโควิด ผู้คนออกจากบ้านไม่ได้ หารายได้จากไหน คุณผึ้ง บอกว่า ที่กระทบโดยตรงคือ ทัวร์บุญ ที่ก่อนโควิดตนจะจัดกรุ๊ปทัวร์เล็กๆ ไปประเทศเพื่อนบ้าน กับผู้ที่มีความเชื่อเหมือนกัน เช่น ฮ่องกง พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ เกาหลี เน้นที่ลูกค้าจ่ายไหว ราคาไม่สูง แต่พอเกิดวิกฤตโควิด ต้องหยุดไป ประกอบกับในเวลาเดียวกันเกิดอุบัติเหตุหกล้ม ทำให้ต้องฟื้นฟูสุขภาพไม่อำนวยในการเดินทางไกล

ส่วนเรื่องการดูดวงไม่กระทบ เพราะลูกดวงจะดูทางโทรศัพท์แทนการมาพบด้วยตนเอง ซึ่งจากเดิมการดูทางโทรศัพท์จะดูแต่เฉพาะลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ โดยค่าครูก็เท่ากับมาพบหน้ากัน เพราะตัวเองเป็นหมอดูที่ตอบจนหมดคำถาม ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องกี่คำถาม

หากใครมีปัญหาอะไร ก็จะแนะแนวทางให้ไปแก้ไขด้วยตัวเอง คนที่ไปทำแล้วดีขึ้นจริง เขาก็กลับมา พร้อมกับบอกปากต่อปากจนมีลูกดวงเข้ามาดูดวงกับตนเรื่อยๆ

คุณผึ้ง เจ้าของเรื่องราว

เจ้าของฉายา หมอดูทิพย์มนตรา ยังแนะแนวทางผู้ที่ต้องการดูดวง เพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตว่า อันดับแรกเลย ให้ถามจากเพื่อนๆ ก่อน แล้วดูว่าหมอดูที่เพื่อนๆ ไปดูมาถูกจริตเราไหม ถ้าไม่ถูกก็หาใหม่ เพราะหมอดูแต่ละคนการแก้ไขปัญหาให้ลูกดวงก็แตกต่างกันออกไป เช่น ดูลายมือ ไพ่ยิปซี ฯลฯ ว่าเราพอใจในการดูดวงแบบนั้นไหม

ทั้งยังต้องระวัง “หมอดูปลอม” ที่แอบอ้างเอาช่องทางหลอกลวงเงินทองจากลูกดวง ซึ่งจะสังเกตได้ตามนี้

หนึ่ง หมอดูที่บอกว่าจะแก้ไขดวงให้โดยให้เสียเงินกับหมอดู เพราะในความจริง ไม่มีหมอดูคนไหน เขาจะยอมแบกรับกรรมคนอื่นโดยการแก้กรรมแทนลูกดวงแน่นอน ถ้าหมอดูคนไหนเรียกเงินทำพิธีแก้ไขกรรมให้คุณโดยเฉพาะคนเดียว ได้โปรดใช้วิจารณญาณ

สอง หมอดูควรมีหลักแหล่งที่แน่นอน จะอยู่บ้าน อยู่ในห้าง หรืออยู่ที่ไหนก็ได้ แม้ว่าการดูจะดูทางออนไลน์ก็ควรมีหลักแหล่งให้เป็นเรื่องเป็นราว เหมือนที่คนโบราณบอกว่า เจ้าต้องมีศาล เพราะหมอดูจะใช้สถานที่นั้นไว้ปฏิบัติพุทธกิจ

สาม ดูการพูดจา ท่าทาง และการแนะนำวิธีแก้ไขปัญหา ว่าสมควรหรือไม่ ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมไหม เพราะไม่อย่างนั้นจะเพิ่มกรรมเพิ่มทุกข์มากขึ้นกว่าเดิม

สี่ ค่าครูแพงเกินหรือถูกเกินเหตุ จริงๆ ไม่มีมาตรฐานตายตัวอะไรว่าต้องคิดค่าครูเท่าไร ผู้ที่จะดูดวงพิจารณาตามความเหมาะสมของตัวเอง สำหรับค่าครูที่แพงเกินเหตุถ้าจ่ายไหวก็ตามสะดวก ถ้าจ่ายไม่ไหวหาคนใหม่อย่าไปต่อค่าครูเขา แต่สำหรับค่าครูที่ถูกเกินเหตุ ถ้าไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มใดๆ อีก ก็ถือว่าคุ้มเพราะหมอดูบางคนครูบาอาจารย์ที่เป็นทิพย์ ท่านก็มีเมตตาเกื้อกูลผู้ตกทุกข์ได้ยาก ค่าครูจึงไม่แรง

คุณผึ้ง ยังบอกอีกว่า หลังจากเลือกหมอดูได้แล้ว ตัวเราที่กำลังมีปัญหาควรเตรียมคำถามที่ชัดเจน ไม่วกวน สับสน จดคำถามที่จะถามเป็นข้อๆ ไว้เลย อย่าให้ความทุกข์มากลบความคิด จนไม่รู้จะถามอะไร ซึ่งจะไม่เกิดผลอะไรในการแก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน

หมอดูทิพย์มนตรา

“แก่นแท้ของอาชีพหมอดู คือ สัจธรรมของการเวียนว่ายตายเกิด เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าทุกชีวิตในโลกนี้มีเรื่องราวที่แตกต่างกันหลบซ่อนอยู่ในแต่ละภพชาติ เมื่อถึงเวลาจึงปรากฏให้เห็นเด่นชัด ที่ชาวพุทธอย่างเราๆ เรียกกันว่า กรรม ซึ่งกรรมก็มีทั้งดีและไม่ดีอีกเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี มนุษย์ทั่วๆ ไปเรียกกรรมต่างๆ นั้นว่า ดวง” คุณผึ้ง บอก

และว่า แล้วก็เพราะดวง นี่เอง ที่ทำให้เกิดอาชีพผู้ปรับระดับกรรมให้กับมนุษย์เกิดขึ้น ซึ่งเรียกว่า หมอดู แต่หมอดู ก็จะเจอลูกดวงที่อยู่ในวิบากกรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ดวงไม่ดีเสียส่วนใหญ่ จะมีบ้างที่หมั่นเช็กดวงด้วยความไม่ประมาท อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องช่วยเหลือวิบากกรรมที่ว่านั้น ให้แต่ละลูกดวงมีชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลายคนมองอาชีพนี้ว่า เป็นอาชีพที่งมงาย หากินกับพวกจิตอ่อน หรือบางคนหาว่าเอาความลำบากของคนอื่นมาหากินไปนั่น แต่สำหรับหมอดู กลุ่มที่เชื่อมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้เคยตรัสไว้ว่า “มนุษย์ทุกคนเกิดมาจากกรรม” กรรมเป็นตัวกำหนด ไม่มีอะไรบังเอิญในโลกนี้ กรรมทั้งหลายทั้งดีและไม่ดีนั่นแหละที่ประดิษฐ์ให้คุณเกิดมา

เพราะฉะนั้น การที่คุณจะดวงดี หรือไม่ดี คุณก็ประดิษฐ์กันขึ้นมาเองทั้งนั้น สำหรับคนไม่เชื่อเรื่องกรรมเรื่องดวง เพราะชีวิตคุณสุขสบายดีอยู่แล้ว ก็ดีใจด้วย ที่คุณประดิษฐ์กรรมดีในภพชาติก่อนๆ ของคุณมามาก จนได้เสวยสุขในชาตินี้ แต่ถ้าใครก็ตามที่ยังตกวิบากกรรม ก่อนอื่นขอให้แก้ไขกรรมด้วยการพัฒนาตัวเอง ให้วิบากกรรมจากที่เลวร้ายอยู่ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม

ทัวร์บุญ ค่อนข้างได้รับผลกระทบช่วงโควิด

แต่ถ้าคุณได้พยายามแล้ว แต่ยังวนเวียนอยู่ในวังวนเดิม ปลดล็อกอะไรในชีวิตไม่ได้เลยนั่นแหละ การหาหมอดู จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เหมือนได้ไปพบผู้ที่เราคาดหวังว่าจะช่วยเหลือนำทางให้ชีวิตที่กำลังติดขัดให้ดีขึ้น ซึ่งหมอดูบางคนก็แนะนำได้ถูกต้องเสียด้วย

ทีนี้ก็สำคัญเรื่องหมอดูแล้วว่าจะดูกับใคร ซึ่งคุณผึ้ง บอกว่า หมอดูมีเยอะแยะมากมายในประเทศไทย จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง หลอกลวงก็เยอะ แล้วจะตัดสินใจได้อย่างไรว่าเราควรหาหมอดูคนไหน คนที่จะมาเป็นหมอดูในปัจจุบันนี้มีเหตุอยู่ 2 ประการใหญ่ๆ คือ

หนึ่ง เป็นผู้ที่มีโชคชะตาที่โดนกำหนดมาเป็นหมอดู กลุ่มนี้จะเลี่ยงอาชีพนี้ได้ยาก พร้อมทั้งมีครูบาอาจารย์ที่เป็นทิพย์คอยดูแล สามารถติดต่อสภาวะทิพย์ได้มากบ้างน้อยบ้างตามบารมีที่สั่งสมมา

สอง กำหนดเอง สนใจ ศึกษาเพื่อที่จะนำมาทำเป็นอาชีพ กลุ่มนี้ถ้ามีการถือศีล ปฏิบัติธรรมร่วมด้วยก็สามารถติดต่อทิพย์สภาวะได้มากน้อยตามแต่บารมีเช่นกัน เพราะฉะนั้น ถ้าตรงจริตคนไหนก็ไปดูคนนั้น แต่ที่สำคัญ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

สำหรับผู้ที่สนใจดูดวงกับ คุณผึ้ง หรือ “ทิพย์มนตรา” สามารถติดต่อสอบถามจองคิวล่วงหน้าได้ที่ Facebook /ทิพย์ มนตรา

 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2565