ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล นักธุรกิจระดับชาติ กับบทบาท ปรมาจารย์ถ่ายภาพ

ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล นักธุรกิจระดับชาติ กับบทบาท ปรมาจารย์ถ่ายภาพ 

พี่ชายของเพื่อนสนิทผมคนหนึ่งมีงานอดิเรกคือ การตระเวนเช่าพระ เขาบอกว่าแค่ได้นั่งส่องพระก็มีความสุขแล้ว จากงานอดิเรก จนกลายเป็นอาชีพซื้อขายพระเครื่อง แกดูพระเป็น

อีกคนหนึ่ง ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อเหมือนคนแรก รายหลังนี้ชอบสะสมนาฬิกาเป็นงานอดิเรก เขามีนาฬิกาหลายร้อยเรือน นาฬิกาแบบโบราณก็มี ซึ่งเขาสามารถทำได้ เพราะมีเงินระดับที่เรียกว่าเศรษฐี

ส่วนตัวผมเองก็วาดรูปเป็นงานอดิเรก

การวาดรูปเป็นงานอดิเรกดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่ต้องเป็นคนรวยก็วาดรูปได้ เพราะลงทุนน้อย ค่าสี ค่าเฟรมราคาไม่แพง

ส่วนงานอดิเรกของคนที่ผมจะเขียนเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องของ คุณชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล

เอ่ยชื่อนี้ ผมเชื่อว่าผู้อ่านและไม่ได้อ่านหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่สนใจการถ่ายภาพจะต้องรู้จักดี ทั้งนี้ก็เพราะ คุณชัยโรจน์ เป็นนักถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงทั้งระดับประเทศและระดับโลกนั่นเอง ถือเป็นปรมาจารย์ด้านถ่ายภาพของไทยก็ว่าได้

ผลงานถ่ายภาพของคุณชัยโรจน์ ที่โดดเด่นมีมากเหลือเกิน ผมได้นำมาลงประกอบเรื่องได้เพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นแต่ละภาพสวยงามอย่างไร ดีแค่ไหน ผมยอมรับว่าอธิบายยากมาก ขอผู้อ่านพิจารณาชื่นชมด้วยตัวเองก็แล้วกัน

ผมเชื่อมั่นว่าผลงานบางภาพจะต้องผ่านสายตาของผู้อ่านมาบ้างไม่มากก็น้อย

หลายคนที่เคยเห็นภาพเหล่านี้แล้วจะต้องติดใจและจำได้ เพียงแต่อาจไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของช่างภาพผู้ใดเท่านั้น

น่าเสียดายที่ผลงานของคุณชัยโรจน์ จัดเก็บอยู่ที่บริษัทคอสโม สุขุมวิท 97/1 ซึ่งเป็นบริษัทของท่าน จึงทำให้ผู้ที่สนใจได้ชมผลงานของท่านค่อนข้างยาก เพราะนานๆ ท่านจะนำออกมาจัดนิทรรศการสักครั้ง ล่าสุด จัดที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ไปเมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ตาม คุณชัยโรจน์ นั้น ไม่ได้มีอาชีพโดยตรงเป็นช่างภาพ แต่ท่านทำธุรกิจจนมีฐานะร่ำรวยระดับเรียกว่าเศรษฐีทีเดียว งานถ่ายภาพจึงเหมือนเป็นงานอดิเรก

ส่วนหนึ่งของผลงาน

บริษัทคอสโมของคุณชัยโรจน์ เป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาที่มีชื่อเสียงหลายยี่ห้อ แล้วยังมีโรงงานผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์และอื่นๆ อีกหลายอย่าง

ถึงแม้ท่านทำธุรกิจตลอดชีวิต คือ ตั้งแต่หนุ่มจนกระทั่งปัจจุบันอายุ 86 ปีแล้วก็จริง แต่สิ่งที่ท่านทำควบคู่มาตลอดก็คือ เป็นช่างภาพ

วันที่ผมได้ไปพบกับคุณชัยโรจน์ที่บริษัท ท่านเล่าประวัติให้ฟังคร่าวๆ ว่า ท่านชอบถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก มีกล้องตัวแรกเป็นของตัวเองตอนอายุ 10 ขวบ พออายุ 15 ปี ได้เป็นเจ้าของกล้องคุณภาพเยี่ยมสุดของรุ่นในสมัยนั้น

ความรักการถ่ายภาพทำให้ท่านได้เข้าเรียนวิชาการถ่ายภาพที่ St.MARTIN SCHOOL OF ART ไปพร้อมกับการเรียนวิศวะที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ประเทศอังกฤษ

ถึงแม้เรียนจบมาแล้วได้มาทำงานด้านธุรกิจ แต่ก็ได้ถ่ายภาพควบคู่กันมาตลอด

คุณชัยโรจน์ มีผลงานดีเด่นจนได้รับรางวัลระดับโลก ติดอันดับท็อปเท็นหลายครั้ง และเป็นเจ้าของครอบครองดาว 5 ดวง จากสมาคมถ่ายภาพในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 2 คนเท่านั้น

ที่ผ่านมาคุณชัยโรจน์ ได้ตระเวนถ่ายรูปในที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากเหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก เพื่อเก็บภาพ บรรยากาศ ทั้งวิถีชีวิตผู้คนและวัฒนธรรม รวมทั้งโบราณสถานที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น

ท่านบอกว่ากว่าจะกดชัตเตอร์ได้แต่ละรูปต้องตัดสินใจอย่างฉับพลัน เพราะบางรูปมีข้อจำกัดเรื่องแสงและเวลาแต่ละครั้ง หากพลาดไปแล้วต้องรอโอกาสมาถ่ายภาพใหม่ ซึ่งต้องรอเป็นปีก็มี

การถ่ายภาพทุกครั้ง ท่านต้องการบอกเล่าเรื่องราวนับพันนับหมื่นที่รายล้อมอยู่รอบตัว ภาพที่เกิดจากฝีมือของท่านหลายชิ้นจึงเป็นอดีตที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก

ผลงานถ่ายภาพของท่านแต่ละภาพจะสะท้อนให้เห็นความสวยงาม ความสุข ความเศร้า ความสะเทือนใจ และความเป็นธรรมชาติ

ปัจจุบัน ถึงแม้คุณชัยโรจน์ มีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลาและโอกาสเท่าที่คนสูงวัยจะทำได้ ออกไปถ่ายภาพนอกสถานที่ โดยเฉพาะตอนที่ท่านได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัด ท่านจะนำกล้องติดตัวไปด้วยเสมอ ผลงานของท่านจึงออกมาไม่เคยขาด

การที่คุณชัยโรจน์ ได้ทำเช่นนี้ ถึงท่านไม่บอก เราทุกคนที่ใกล้ชิดท่านก็รู้ได้ว่า ถึงแม้ท่านจะมีฐานะดีอย่างไร ก็คงทิ้งการถ่ายภาพไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นงานที่ทำให้ท่านมีความสุขนั่นเอง