ครม.เห็นชอบ “พระธาตุพนม” ขึ้นบัญชีเบื้องต้นมรดกโลก เร่งจัดทำเอกสารให้กรรมการพิจารณา

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบเอกสารนำเสนอพระธาตุพนมเข้าสู่รายชื่อเบื้องต้น เพื่อไปยังศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ภายใต้ชื่อ PHRA THAT PHANOM, ITS RELATED HISTORIC BUILDING AND ASSOCIATED LANDSCAPE และเห็นชอบให้ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานลงนามหนังสือถึงศูนย์มรดกโลก ในการเสนอพระธาตุพนมเข้าสู่รายชื่อเบื้องต้น ตามมติของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกเมื่อเดือนพ.ย.2559 ที่ผ่านมา

รมว.วธ. กล่าวต่อว่า การดำเนินการพระธาตุพนมเข้าสู่รายชื่อเบื้องต้น ทางจังหวัดนครพนมได้เสนอเอกสารให้คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งมีตนเป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบและนำเสนอคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เมื่อปลายเดือนพ.ย.2559 ซึ่งที่ประชุมก็เห็นชอบและมีมติให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอให้ครม.เห็นชอบ เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าแนวทางหลังจากนี้ต้องจัดทำเอกสาร เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนบัญชีรายชื่อเบื้องต้นไปยังศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส ฝรั่งเศส เพื่อให้คณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 41 ในเดือนก.ค.2560 ณ เมืองคราเคา สาธารณรัฐโปแลนด์

นายวีระ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับพระธาตุพนม ตั้งอยู่บริเวณวัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม อยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำโขงมีระยะห่าง 600 เมตร ตามความเชื่อพื้นถิ่นเชื่อว่า พระธาตุสร้างโดยพระมหากัสสปะ พระอัครสาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายหลังจากปรินิพพานแล้ว 8 ปี

โดยเป็นพระธาตุที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และในลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง ซึ่งพระธาตุได้รับการบูรณะและสักการบูชาจากประชาชนหลากหลายเชื้อชาติ และภูมิภาคต่างๆ มาตลอดระยะหลายพันปี จึงถือว่าเป็นศาสนสถานที่มีคุณค่าโดดเด่น เป็นสากลมีคุณสมบัติในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกใน 3 เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์ที่ 1 เป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ของมนุษย์

เกณฑ์ที่ 2 เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อ ในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมอนุสรณ์สถาน ประติมากรรม ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องหรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และเกณฑ์ที่ 6 มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือความโดดเด่นในประวัติศาสตร์

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์