ร้านค้า ลงทะเบียน-ยืนยัน คนละครึ่ง เฟส 5 ผ่าน เป๋าตัง ปชช. เริ่ม 19 ส.ค.นี้

วันนี้วันแรก! ร้านค้า ลงทะเบียน-ยืนยัน คนละครึ่ง เฟส 5 ผ่าน เป๋าตัง ปชช. เริ่มลง 19 ส.ค.นี้

วันที่ 15 ส.ค. 65 เว็บไซต์ ข่าวสดออนไลน์ รายงานข่าว นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 ที่เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก สร้างเม็ดเงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นายธนกร กล่าวต่อว่า โดยในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลัง เปิดรับลงทะเบียนให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จนกว่าจะประกาศปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการโครงการอื่นของรัฐที่มีแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” แล้ว และประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต่อไป ให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน”

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการโครงการอื่น สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย โดยคุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ)

ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (gift voucher หรือ gift card) บัตรเงินสด (cash card) และสินค้า บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระล่วงหน้า (prepaid) ส่วนในวันที่ 17 ส.ค. 65 จะเปิดรับลงทะเบียนร้านอาหารและเครื่องดื่ม สมัคร Food Delivery Platform เฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น

นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของประชาชน ซึ่งมีจำนวนสิทธิ 26.5 ล้านสิทธิ จะสามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 65 และใช้สิทธิในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่งเฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 14 ก.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการ

โครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 เป็นโครงการที่ประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าพึงพอใจอย่างมาก เชื่อมั่นว่า การดำเนินการโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มอุปสงค์ในการบริโภค ช่วยเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2565