เอาด้วย! นักท่องเที่ยว-ปชช.แห่ลงร่อนทองบางสะพานจนอุปกรณ์ไม่พอ

วันที่  20  มกราคม  นายศักดา เอกพัฒน์ศิริ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์    เปิดเผยว่า    ขณะนี้ มีชาวบ้านจำนวนมากนำ”เลียง” ผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้านเดินทางมาร่อน”ทองบางสะพานหรือ ทองนพคุณ ”  ที่คลองทอง และห้วยจังหัน    บ้านป่าร่อน  หมู่ ที่ 6   หลังจากมีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตะนาวศรีตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้เฉลี่ยรายละ 300 – 1,200  บาท ชดเชยโอกาสและความเสียหายจากการประกอบอาชีพด้านการเกษตรหลังจากประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่

ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวรวมทั้งประชาชนจำนวนมากที่เดินทางไปมอบถุงยังชีพ ให้ความสนใจในการร่อนทอง  ทำให้ ” เลียง” มีไม่เพียงพอกับความต้องการ แม้ว่าชาวบ้านส่วนหนึ่งจะเปิดบริการให้เช่า    นักท่องเที่ยวจึงซื้อกระทะเพื่อนำมาใช้ร่อนทองแต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากระทะผลิตจากเหล็กพื้นผิวมีความลื่นทำให้เศษทองไม่เกาะติด ต่างจาก”เลียง”ซึ่งผลิตจากไม้ใยด้าย ปัจจุบันมีราคาสูงถึงใบละ  4,000 บาทมีขนาดตั้งแต่เส้นผ่าศูนย์กลาง  30 เซนติเมตร(ซม.)ถึง 50 ซม.

นายศักดา กล่าวว่า ที่ผ่านมา  อบต.ได้ร่วมกับอำเภอบางสะพาน แปละเทศบาลตำบลร่อนทอง  จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่บริเวณคลองทอง  เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560   โดยมีการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก การจัดนิทรรศการทองบางสะพาน   และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเช่าเลียงเพื่อนำไปร่อนทองโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแห่งเดียวในประเทศ  แต่หลังจากเปิดโครงการได้ไม่นานพื้นที่ได้มีน้ำป่าไหลหลากรุนแรงทำให้”เลียง” สูญหายทั้งหมด

สำหรับการปรับปรุงถนนเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้โดยสะดวกนั้น นายศักดากล่าวยอมรับว่า มีปัญหาเนื่องจากเส้นทางเดิน ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ได้รับอนุเคราะห์ให้เดินผ่านได้ โดยจุดที่มีการร่อนทองปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากทางแยกจากถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.  ผ่านถนนสายสายเพชรเกษม –   ป่าร่อน ระยะทางเพียง   4.5 กิโลเมตรและยอมรับว่าทุกครั้งที่มีน้ำหลากจะมีทองจำนวนมากถูกกระแสน้ำท่วมพัดหน้าดินไหลมากับน้ำในคลอง