ร้อง ”ดีเอสไอ” ตุ๋นลงทุนทองคำ “เสี่ยอสังหาฯ ดารา” หลงกล สูญ 70 ล้าน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มกราคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายเอกลักษณ์ ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส พี เรียลเอสเตท จำกัด ลูกชายของนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตพระโขนงและเขตบางนา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม พญ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธิวิทย์ และน.ส.อภิญญา พัชรไผท ผู้เสียหาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับสองสามีภรรยา เจ้าของร้านห้างทองชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ในข้อหายักยอกทรัพย์และฉ้อโกงประชาชน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยมีนายณัฐวุธ นิติวรยุทธ หัวหน้าหน่วยบริการประชาชน ดีเอสไอ รับเรื่อง

นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์จะมีการเข้ามาตีสนิทกับตน และชักชวนให้ร่วมลงทุนในการเทรดหุ้นทองคำกับทางร้าน เมื่อช่วงต้นปี 2559 เพราะเห็นว่าเป็นคนมีบุคลิกน่าเชื่อถือ และรู้จักกับครอบครัวนักการเมืองชื่อดัง จึงหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วย เป็นเงิน 25 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อต้องการใช้เงิน และขอถอนหุ้นออก8ล้านบาท กลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ เมื่อไปทวงถามจากทางร้านได้รับคำตอบว่า นำเงินทั้งหมดไปให้สามีลงทุนทำโรงงานทองหมดแล้ว อีกทั้งยังได้ส่งจดหมายมาขอประนอมหนี้และมีความพยายามจะให้ยินยอมเปลี่ยนจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่ง ซึ่งพวกตนไม่ยอม และจะไม่มีการยอมความแต่อย่างใด ทั้งนี้ จากพฤติการณ์ดังกล่าว ทำให้ตนเริ่มเชื่อว่าถูกหลอกและเข้าข่ายเป็นการยักยอกทรัพย์และฉ้อโกงประชาชน จึงได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ เช่น กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปอท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้ว

นายเอกลักษณ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ผู้เสียหายอีก2ราย นำทองไปฝากที่ร้านทองดังกล่าว ตามที่ได้มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าให้ดอกเบี้ยสูงถึง12เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความสนใจ โดยน.ส.รัสมิ์ภูมิ นำทองคำไปฝากไว้250บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ส่วนน.ส.อภิญญา ได้ฝากทองคำ 90 บาท มูลค่า 2.2 ล้านบาท โดยช่วงแรกได้ผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง แต่ผ่านไปสักระยะหนึ่งหลังจากการลงทุน กลับไม่ให้ดอกเบี้ยตามที่อ้างไว้ มีการบ่ายเบี่ยงไม่ได้รับทองคำคืนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามนอกจากพวกตนแล้ว ยังมีผู้เสียหายจำนวนมาก มีทั้งเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง และนักแสดงหญิงชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท ดังนั้นจึงอยากให้ดีเอสไอเข้าไปยับยั้งการกระทำของสองสามีภรรยา เนื่องจากปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่ตามปกติ และยังมีการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาด้วย

ด้าน นายณัฐวุธ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบ และเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณาและสั่งการต่อไป

ที่มา : มติชนออนไลน์