ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มกราคม นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุัตว์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิชัย ไลออน รองผกก.4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ( บก.ปคบ. ) และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพันพัฒนาที่ 1 จังหวัดราชบุรี เข้าตรวจค้นและอายัดเครื่องผสมอาหารสัตว์ในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ชื่อฟาร์มโคขุน สมพรฟาร์ม เลขที่ 16/5 หมู่ 1 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังจากที่เคยเข้าตรวจสอบภายในโรงงานแล้ว และนำสารที่ใช้ในโรงงานไปตรวจสอบและเมื่อทราบผลตรวจวิเคราะห์อาหารสัตว์ (โคขุน) ว่ามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงผสมในอาหารสัตว์ขายให้กับเกษตรกรทั่วไป จึงได้ตรวจยึดไว้ทั้งหมด โดยมีนางสมพร ทัศนสุวรรณ อายุ 60 ปี เจ้าของฟาร์มออกมาให้ข้อมูลว่า ใช้สารเร่งเนื้อแดงจริงเพราะมีลูกค้านำมาให้ใช้ โดยไม่ทราบว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดส่วนผสมอาหารสัตว์จำนวน 5 ตันเครื่องผลิตอาหารสัตว์จำนวน 6 เครื่องมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาทส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราบุรี ดำเนินคดี ต่อไป
นายสัตวแพทย์สรวิศ เปิดเผยว่า อาหารสัตว์ที่ผสมสารเร่งเนื้อแดง หรือ สารในกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและโคขุนบางกลุ่มนำไปเลี้ยงสัตว์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดปริมาณไขมันในเนื้อสัตว์ ตลอดจนเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ เร่งการเจริญเติบโตและทำให้เนื้อสัตว์สีแดงน่าบริโภค โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ซึ่งจะมีปริมาณการใช้เนื้อสัตว์จำนวนมาก และเมื่อผู้บริโภครับประทานเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างอยู่ อาจส่งผลทำให้กล้ามเนื้อสั่น กระตุ้นการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนปวดศีรษะ ซึ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคลมชัก โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ตลอดจนหญิงมีครรภ์จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดงที่ตกค้างในเนื้อสัตว์ ซึ่งถ้ามีการตรวจพบลักลอบผลิตหรือใช้สารเร่งเนื้อแดงผสมในอาหารสัตว์ก็จะมีโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ