ประชดสรรพากร! นักธุรกิจมะกันขนเหรียญ 3,000 ดอลลาร์ ลงรถเข็น 5 คันจ่ายภาษี

บีบีซีรายงานว่า นักธุรกิจชาวสหรัฐที่กำลังมีข้อพิพาทกับกรมสรรพากร ได้จ่ายภาษีราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100,000 บาท ด้วยการขนเหรียญกว่า 300,000 เหรียญมาในรถเข็น 5 คัน มาชำระภาษี

นายนิค สตาฟฟอร์ด จากรัฐเวอร์จิเนีย ได้นำเงินมาส่งที่กรมฯ ซึ่งคาดว่าเครื่องนับเงินอัตโนมัติไม่สามารถรับมือกับปริมาณดังกล่าวได้ โดยการนำเงินมาชำระภาษีของเขาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ชั่วโมงในการนับเหรียญทั้งหมด จึงทำให้พวกเจ้าหน้าที่ต้องทำงานล่วงเวลา ซึ่งสุดท้ายก็มาเสร็จภารกิจนี้ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นายสตาฟฟอร์ดกล่าวกับบีบีซีว่า การประท้วงของเขาครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้อธิบดีสนใจคำถามของประชาชนมากกว่านี้

“มันไม่สมเหตุสมผลเลยหากคุณต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐแบบผม เพราะหัวใจของสิทธิเสรีภาพในระบบประชาธิปไตย/สาธารณรัฐนั้น เริ่มต้นจากความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ” นายสตาฟฟอร์ดระบุ

นายสตาฟฟอร์ดอธิบายบนเว็บไซต์ของบริษัทตนว่า การลุกขึ้นมาประท้วงกรมสรรพากรของตนนั้น มีสาเหตุมาจากหน่วยงานดังกล่าวจะไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่เขาต้องติดต่อเพื่อลงทะเบียนจ่ายภาษีรถ 3 คัน แก่เขาโดยตรง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของบ้านอยู่ 3 หลัง และอยู่คนละที่กัน ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องไปจ่ายภาษีที่ไหน

เขาจึงยื่นสิทธิในการขอข้อมูลไปยังหน่วยงานดังกล่าว เพื่อขอให้แจ้งเบอร์โดยตรงแก่เขา และเขาจะได้ติดต่อไป แต่เขากลับได้รับแจ้งว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำมาใช้เพื่อตอบคำถามของประชาชน

นายสตาฟฟอร์ดจึงขอเบอร์ติดต่อโดยตรงของสำนักงานภาษีอื่นๆ ไปอีก 9 แห่ง และเมื่อถูกปฏิเสธ เขาจึงเดินทางไปศาลเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิดังกล่าว

และในสัปดาห์ที่ผ่านมา คำตัดสินของศาลก็ออกมาปฏิเสธต่อข้อเรียกร้องของเขา และมีคำสั่งให้เขาชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากร อย่างไรก็ตาม อัยการก็ไม่มีคำสั่งให้บอกหมายเลขโทรศัพท์แก่เขาอยู่ดี

โดยกรมสรรพากรก็ต้องรับเหรียญของเขาไป เนื่องจากพระราชบัญญัติเหรียญของสหรัฐในปี 1965 ระบุว่า เหรียญสามารถใช้ชำระหนี้, ค่าบริการ, ภาษี และค่าธรรมเนียมได้