ปลดหนี้ หลายล้าน ด้วยธุรกิจออนไลน์ ยก จีน ต้นแบบ ปลุกเอสเอ็มอี ลืมตาอ้าปาก

ปลดหนี้ หลายล้าน ด้วยธุรกิจออนไลน์ ยก จีน ต้นแบบ ปลุกเอสเอ็มอี ลืมตาอ้าปาก

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจ พร้อมด้วย คุณกันตวีร์ แสงสาย หรือ โค้ชตั้ม โค้ชสอนการขายออนไลน์ เดินทางลงพื้นที่ บ้านเก้ากอ ต.ทอนหงษ์ อ.พรหมคีรี และ พื้นที่บ้านหน้าค่ายศรีนครินทรา ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

โดยทาง โค้ชตั้ม ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ เคล็ดลับ และเทคนิคในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งหากทำเป็น จะสามารถสร้างรายได้ในระยะเริ่มต้นอย่างน้อย 1,000 บาทต่อวัน พร้อมยกตัวอย่าง ผู้ประสบความสำเร็จจากการเข้าอบรม และไปลงมือทำธุรกิจออนไลน์

จากอดีตเจ้าของธุรกิจน้ำแข็ง ครอบครัวมีหนี้สิน 8 ล้าน ไม่มีเงินลงทุน เริ่มทำธุรกิจออนไลน์จากติดลบ ปัจจุบันขายทอดมัน อยู่ที่วัดไอ้ไข่ มีรายได้ 18 ล้านต่อปี ปลดหนี้ได้ตั้งแต่ปีแรก รวมถึงอีกหลายๆ คนที่ผ่านจุดท้อ แต่ไม่ถอย จนประสบความสำเร็จในที่สุด ทั้งที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ได้มีต้นทุนเป็นนักขาย หรือนักธุรกิจมาก่อนแต่อย่างใด

โค้ชตั้ม ถ่ายทอดวิชาการขายออนไลน์ ให้กับชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

ด้าน คุณวรวุฒิ กล่าวว่า การมาสอนคนนครฯ ขายออนไลน์ ไม่ได้หมายความว่าจะขายให้แต่คนในจังหวัดเดียวกันเท่านั้น แต่จะส่งไปขายคนในอีก 76 จังหวัดทั่วประเทศ สินค้าขึ้นชื่อของ จ.นครฯ มีมากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องถม เครื่องเงิน เครื่องแกง เงาะ มังคุด กะละแม กระท่อม หรือแม้แต่ วัตถุมงคล สถานที่ท่องเที่ยว การท่องเที่ยวสายมู ธุรกิจบริการทั้งหลาย สามารถขายคนทั่วประเทศได้ ถ้าทำเป็น ทำถูก เงินทองก็จะเข้าครอบครัว และชุมชน

และหากทุกจังหวัดใช้โมเดลเดียวกันนี้ ขายของระหว่างกัน ใช้ของไทยด้วยกันเอง เศรษฐกิจไทยก็จะดี วันนี้ต้องหยิบคำขวัญเมื่อหลายสิบปีก่อนที่ว่า “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” มาใช้อีกครั้ง ในยุคที่วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตอาหาร เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

และว่า แม้วันนี้พรรคกล้า จะไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล แต่ได้ลงมือทำจริงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อผลักดันให้พี่น้องประชาชนของเรา ขายของออนไลน์เป็น ตัวอย่างประเทศที่ทำธุรกิจออนไลน์จนประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ จีน วันนี้เขาประกาศพ้นความยากจน เขาปลุกเอสเอ็มอี โอท็อป ให้ร่ำรวย ลืมตาอ้าปากได้ จนประกาศเป็นประเทศที่พ้นความยากจน และเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกได้เป็นที่เรียบร้อย

ตั้งใจฟัง

ในขณะที่ประเทศไทย ถ้าวันนี้มีสินค้า แล้วนำไปขายในห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ ต้องผ่านตัวกลางที่เป็นภาษีขนาดใหญ่ ค่าเปอร์เซ็นต์กำไร 40-50% ที่เขาจะหักไว้ แล้วมีเงื่อนไขต้องส่งในทุกสาขา ซึ่งชาวบ้าน กำลังการผลิตไม่พออยู่แล้ว แต่ถ้าขายออนไลน์ แม้ไม่มีสินค้าเองก็ขายได้ โดยการซื้อมาขายไป หรือถ้ามีสินค้าอยู่แล้ว เพียงปรับแพ็กเกจรูปลักษณ์ เพิ่มมูลค่า ก็สามารถทำราคาได้ เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ต้นทุนของการค้าขายส่วนหนึ่งอยู่ที่ค่าขนส่ง ถ้าคำนวณผิดก็ขาดทุนได้ ถ้าพรรคกล้าเป็นรัฐบาล การค้าขายออนไลน์ ของเอสเอ็มอี โอท็อป สินค้าชุมชน จะประกาศให้ ไม่มีการเสียค่าขนส่ง 1 ปี นี่คือ การสร้างโอกาส ติดอาวุธ และให้แต้มต่อแก่คนตัวเล็กให้เดินได้ เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน