งานแอร์โฮสเตส ชะงักเพราะโควิด แต่ชีวิตต้องเดินต่อ หันทำธุรกิจที่ถนัด

คุณพลอย-เศรษฐีอร รื่นเริง ศิษย์เก่าระดับปริญญาโท สาขาวิชาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต แอร์โฮสเตสสาว ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของสถาบันสอนภาษาจีน เหตุเพราะสถานการณ์โควิด-19 เล่าให้ฟังว่า แอร์โอสเตสเป็นอีกหนึ่งอาชีพแรกๆ เลยที่ต้องหยุดการทำงานไป แต่ใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ไม่นานตัดสินใจลงทุนเปิดสอนภาษา

โดยธุรกิจนี้ เกิดจากแนวคิดที่ว่า ลองทำอะไรที่ได้ใช้ความสามารถที่มีดูก่อน ในเมื่อตัวเรา มีความรู้เรื่องภาษาจีน เพราะใช้สื่อสารทุกวันเวลาที่ทำงาน และก็ยังมีความรู้ด้านการบริหารด้วย จึงทำให้อาชีพสำรองนี้เกิดขึ้น

“กว่าจะมาเป็น บ้านเหม่ยจู สถาบันสอนภาษาจีน อย่างทุกวันนี้ได้ มีอะไรต้องทำหลายอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่การเริ่มหาข้อมูลสำหรับการเปิดโรงเรียน การดูแลบริหารจัดการเรื่องเงิน มีรายละเอียดให้คิดหลายเรื่อง สำหรับกลุ่มเป้าหมายเน้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะผู้ปกครองหลายท่าน ต้องการให้ลูกหลานเรียนเพื่อเป็นภาษาที่ 2 ภาษาที่ 3

ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่ง มีการสอนภาษาจีนอยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีคนให้ความสนใจเข้ามาเรียนเยอะพอสมควร ซึ่งทางเราก็จะสอบถามในเบื้องต้นก่อนว่า อยากเรียนเพื่อเน้นอะไร จะใช้สื่อสารเป็นหลัก หรืออยากเน้นเรื่อง Speak Up มากกว่า”

“หากถามว่าความท้าทายของการเปิดสถาบันภาษาคืออะไร มีเยอะมาก การทำการตลาดไม่ง่าย รวมถึง การสร้างตัวตนเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้และเปิดใจก็ยากใช่เล่น และเมื่อได้ลูกค้ามาแล้ว สิ่งที่ยากคือ ทำอย่างไรให้เขายังจะสมัครคอร์สต่อไป ต้องสร้างความประทับใจอย่างไรบ้าง” คุณพลอย บอกอย่างนั้น

เมื่อถามถึงความสำคัญของการเรียนภาษาจีนในยุคนี้ ผู้มีประสบการณ์ตรง บอกว่า คนปัจจุบันมองว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่ 3 ที่สำคัญ แต่ไม่กล้าที่จะเริ่มเรียน เพราะคิดเองว่ายาก แต่จริงๆ แล้ว ภาษาจีนอยู่คู่กับภาษาไทยมานานแล้ว ส่วนตัวเธอมองว่า ภาษาจีนนั้น เรียนง่ายกว่าภาษาอังกฤษ

“คนจีนทำธุรกิจกับประเทศต่างๆ มากมาย ภาษานี้จะเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จะนำมาใช้ประกอบอาชีพได้แน่นอนตัวพลอยเอง ก็ใช้ภาษาจีนทั้งกับอาชีพหลัก คือ แอร์โฮสเตส และอาชีพรอง อย่างการเป็นครูสอนภาษาจีนค่ะ” คุณพลอย ฝากไว้อย่างนั้น