“เครดิตบูโร” ออกมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประสบวิกฤติอุทกภัยใต้

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักและอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัดภาคใต้ของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ การประกอบกิจการ และรายได้ของประชาชน และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ธนาคารและสถาบันการเงินเป็นอย่างมากนั้น เครดิตบูโร ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสถาบันการเงินไทยมีความเป็นห่วงใยเป็นอย่างยิ่งสำหรับความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และด้วยเหตุที่ในอนาคตอันใกล้นี้ บุคคลเหล่านั้นคงจะมีการขอสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซม หรือเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน เป็นต้น

เครดิตบูโร จึงได้ดำเนินการดังนี้ ออกหนังสือถึงธนาคารและสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกกว่า 94 แห่ง เพื่อให้ระมัดระวังในการรายงานและนำส่งข้อมูลของลูกหนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะ หากมีการผ่อนผันหรือผ่อนปรนการชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ควรยึดถือข้อเท็จจริงตามนโยบายที่ได้ช่วยเหลือหรือผ่อนผันให้กับลูกค้า เช่น กรณีที่ลูกค้าสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันได้ สมาชิกสามารถรายงานและนำส่งข้อมูลการชำระหนี้ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันนั้นในสถานะบัญชี “บัญชีปกติ” แทนการรายงานและนำส่งข้อมูลว่า “ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้” เพื่อช่วยเหลือลูกค้าไม่ให้เกิดความเสียหายในประวัติของตน

นอกจากนี้ตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่อง รหัสสถานะบัญชี มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าในกรณีที่มีการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ หรือตามนโยบายของสมาชิกที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ เช่น ประสบภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัติอื่น อาจนำส่งเป็น “พักหนี้ตามนโยบายของรัฐ” มาตรการนี้จะเป็นการช่วยเยียวยาทางด้านจิตใจและการดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องหลังน้ำลดแล้วแก่ผู้ประสบอุทกภัยอีกทางหนึ่งด้วย

 

ในกรณีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 94 แห่งมีการติดต่อลูกหนี้ได้ในภายหลัง เนื่องจากตอนประสบภัยยังหาตัวกันไม่พบเพราะต่างถูกน้ำท่วม แม้จะมีการส่งข้อมูลเข้ามาว่าผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม เมื่อมีการเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ และให้มีผลย้อนหลังไปยังเดือนที่เคยส่งข้อมูลว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินนั้น สามารถแจ้งแก้ไขให้บัญชีดังกล่าวกลับมาเป็นสถานะ บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ “ปกติไม่ค้างชำระ” หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้แล้วแต่กรณี เครดิตบูโรจะดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงให้เป็นไปตามที่มีการตกลงกัน

อนึ่ง เครดิตบูโรมีข้อแนะนำว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแจ้งความเสียหาย ปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนตามที่มีการแถลงออกมา อันจะทำให้ประวัติทางการเงินของท่านเหล่านั้นได้รับการดูแลตามความเป็นจริง

นอกจากนี้ในส่วนของเครดิตบูโร จะมีการเฝ้าติดตามข้อมูลที่สมาชิกนำส่งทุกสิ้นเดือนว่า ไม่มีความผิดปกติหรือไม่มีการส่งข้อมูลบัญชีที่มีการแสดงสถานะว่าผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า หากพบความผิดปกติจะแจ้งสมาชิกให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำข้อมูลเข้าฐาน

ad-%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%9a%e0%b8%b9%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%84

หลังจากเหตุการณ์สู่ภาวะปกติ ลูกค้าสามารถตรวจเครดิตบูโรของตนเองเพื่อดูความถูกต้องของข้อมูลได้ ซึ่งเครดิตบูโรมีช่องทางสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถตรวจเครดิตบูโรได้ในหลายช่องทาง อาทิ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร หรือยื่นคำขอผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์          ที่ทำการไปรษณีย์ หรือที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 0-2643-1250 อีเมล [email protected] หรือตรวจสอบช่องทางการตรวจเครดิตบูโรได้ที่ www.ncb.co.th              ทางเครดิตบูโร มีเจ้าหน้าที่ให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลประวัติสินเชื่อผ่าน Call Center ทุกวันจันทร์-ศุกร์                     เวลา 08.30-16.30 น.