โวยคอนโดดังริมหาด อ.ปราณบุรี ลักไก่ทำเป็นโรงแรมเปิดจองพักรายวัน

วันที่ 7 มกราคม 2560 เจ้าของสปาชื่อดังเมืองหัวหิน ได้ร้องเรียนว่าตนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุรำคาญภายในอาคารที่พักมิลฟอร์ด  พาราไดซ์ คอนโดมีเนียม ชายหาด อ.ปราณบุรี หลังจากซื้อคอนโดดังกล่าวมานานกว่า  10 ปี แต่ผู้ประกอบการนิติบุคคล ได้เปิดให้เช่าห้องพักรายวันบนชั้นที่ 23  โดยไม่มีใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติ( พรบ.) โรงแรม 2547  และที่ผ่านมาได้ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ที่สำนักงานที่ว่าการอำเภอปราณบุรีแล้ว 2 ครั้ง โดยมีคลิปวิดีโอการเล่นดนตรีเสียงดัง  สำเนาเว๊ปไซด์อ้างเป็นโรงแรมเปิดให้จองห้องพักรายวัน แต่ไม่ได้รับการขี้แจงใดๆ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรายหนึ่งที่รับเรื่องร้องเรียน โทรศัพท์มาไกลเกลี่ยเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าผู้ประกอบคอนโดฯและพนักงานจะได้รับความเดือดร้อน  หากเจ้าหน้าทำการจับกุมดำเนินคดีตาม พรบ.โรงแรมฯ

“จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง  พบว่าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ปราณบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมผู้ประกอบการโรงแรมดังกล่าว เมื่อต้นปี 2559โดยปรับเป็นเงินหลายแสนบาท  แต่ล่าสุดยังลักลอบเปิดให้บริการที่พักรายวันกับกรุ๊ปทัวร์ชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง   ซึ่งมีการทำกิจกรรมที่เป็นเหตุรำคาญและผู้เข่้าพักใช้พื้นที่ส่วนกลางรบกวนสิทธิผู้เช่าซื้อคอนโดมมีเนียม เนื่องจากมีการเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้เข่าซื้อคอนโด ”  เจ้าของสปาดัง กล่าว

ด้านนายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์  นายอำเภอหัวหิน ในฐานะอดีตนายอำเภอปราณบุรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้สนธิกำลังทหารเข้าทำการจับกุมเจ้าของมิลฟอร์ด และคอนโนมีเนียมอีกหลายแห่ง ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอปราณบุรี  ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งยอมรับว่า พรบ.โรงแรมฯยังมีจุดอ่อนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะต้องทำการล่อซื้อห้องพักกับพนักงานเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุม  โดยมีอัตราค่าห้องพักค่อนข้างสูงประมาณห้องละ 5,000 – 7,000  บาทต่อวัน   ทำให้การล่อซื้อต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และมีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่

“เนื่องจากผู้ประกอบการมักจะอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับบุคคลระดับสูง  นอกจากนี้ คอนโดมีเนียมบางแห่งยังเปิดให้จองห้องพักผ่านเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก  ยอมรับว่าในพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี เมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ   มีผู้เช่าซื้อคอนโดมีเนียมร้อยละ 90 เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเช่าพักรายวัน โดยไม่มีการแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบตามระเบียบปฏิบัติ  ซึ่งขณะนี้ฝ่ายปกครองได้เดินหน้าจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อจับปรับแล้วยังพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังฝ่าฝืนทำผิดกฎหมาย “ นายรุจน์ประทีป กล่าว