อาหาร ท่องเที่ยว สมุนไพร จุดแข็งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ชู กัญชา พระเอกตัวจริง

คุณภูรดา ลิมปนาทไพศาล ประธานชมรมการประกอบอาหารด้วยสมุนไพรไทย (Club of Thai Herb Cuisine) กล่าวถึงโครงการ Hi Life Thailand ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือจากหลายฝ่าย ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์กัญชา ที่สามารถเข้าไปเสริมศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ด้วยการนำอาหารและการท่องเที่ยว เข้ามาผสมผสานกัน โดยมีการสนับสนุนกัญชาและสมุนไพรไทยในหลากหลายมิติ

สำหรับการอบรมหลักสูตรกัญชาและสมุนไพร ในอาหาร-เครื่องดื่ม สำหรับเชฟมืออาชีพ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานพันธมิตร นับเป็นกิจกรรมแรกของโครงการ Hi Life Thailand โดยมีเป้าหมายให้เชฟชั้นแนวหน้าของเมืองไทย มีความรู้ในการนำกัญชาและสมุนไพรไทยไปใช้อย่างถูกต้อง สามารถสื่อสาร “การกินอาหารเป็นยา” จนนำไปสู่กิจกรรมที่สามารถนำเงินตราเข้าประเทศได้อีกครั้ง

คุณคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า หลังโควิด ผู้คนจะให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น หากนำเรื่องของการท่องเที่ยวกับสุขภาพมารวมกันได้ โดยไม่ใช่เรื่องของทางการแพทย์ แต่ทำให้เป็นไลฟ์สไตล์ได้ น่าจะเกิดผลดีต่อการท่องเที่ยวโดยภาพรวม

“กัญชา มีคุณประโยชน์มหาศาล ถูกกฎหมายแล้ว และสามารถนำมาใช้ได้ในหลากหลายมิติ ซึ่งในมิติของการท่องเที่ยว การที่มีกัญชา เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ใหม่ๆ ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยแล้ว น่าจะทำให้การท่องเที่ยวในบ้านเราคึกคักมากขึ้น” คุณคมสรรค์ กล่าว

ด้านคุณประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินอันดับต้นๆ ที่เล็งเห็นความสำคัญของกัญชา พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ กล่าวว่า เคทีซี ได้ออกแคมเปญ “เที่ยว ชิม ลิ้มรสอาหารระดับเชฟมืออาชีพ กับเมนูสมุนไพรใบกัญชา” เปิดโอกาสให้สมาชิก บัตรเครดิตเคทีซี ได้เลือกจองเข้าร่วมกิจกรรมหลากหลายตลอดปีนี้

ด้าน ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การมีหลักสูตรกัญชาและสมุนไพรในอาหาร-เครื่องดื่ม สำหรับเชฟมืออาชีพ จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารมีความรู้ในการนำกัญชาไปปรุงให้มีรสชาติที่ดี พร้อมกับประโยชน์ทางสุขภาพ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่รายได้ที่มากขึ้นของคนไทยทุกคน