เช็กแคลอรี 5 ขนมหวานสื่อรัก วันวาเลนไทน์ กินอย่างไรไม่ให้น้ำตาลสูง  

เช็กแคลอรี 5 ขนมหวานสื่อรัก วันวาเลนไทน์ กินอย่างไรไม่ให้น้ำตาลสูง  
เช็กแคลอรี 5 ขนมหวานสื่อรัก วันวาเลนไทน์ กินอย่างไรไม่ให้น้ำตาลสูง  

เช็กแคลอรี 5 ขนมหวานสื่อรัก วันวาเลนไทน์ กินอย่างไรไม่ให้น้ำตาลสูง  

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เทศกาลวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก คู่รักหลายคู่ อาจเตรียมมอบของขวัญแทนใจให้แก่กัน นอกจากดอกไม้แล้ว ส่วนใหญ่ มักจะเป็นขนมหวาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความหวาน ความสุข ความรัก ซึ่งขนมหวานยอดนิยม ที่ถูกนำมามอบให้แก่กัน ได้แก่

1. ช็อกโกแลต 1 ชิ้นคำ ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี 2. คุกกี้ 1 ชิ้น ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี 3. สตรอว์เบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต 1 ชิ้น ขนาด 35 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี 4. คัพเค้ก 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 130 กิโลแคลอรี และ 5. บราวนี่ 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี

แต่เนื่องจากขนมเหล่านี้ให้พลังงานค่อนข้างสูง อีกทั้ง ความหวานที่ได้จากน้ำตาลที่เพิ่มลงไปนั้น จัดเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์น้อย หากกินโดยไม่มีการควบคุมบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนในระยะยาวได้

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าใน 1 วัน ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานจากน้ำตาลมากเกินไป ซึ่งพลังงานจากอาหารว่าง ขนม และเครื่องดื่ม ไม่ควรเกินวันละ 150-200 กิโลแคลอรีต่อวัน

ดังนั้น หากกินช็อกโกแลต คุกกี้ สตรอว์เบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต ไม่ควรเกินวันละ 3-4 ชิ้น ส่วนคัพเค้กและบราวนี่ไม่ควรมากกว่า 1 ชิ้นต่อวัน หากสามารถทำขนมเองได้แนะนำให้เลือกสูตรหวานน้อย และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยใยอาหารจากธัญพืชต่างๆ หรือผลไม้รสไม่หวานจัด

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขนมมากินเองหรือเป็นของขวัญ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ และควรปรับพฤติกรรมการกิน โดยค่อยๆ ลดความหวานลง และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำด้วย