ร้าน หมูปิ้ง 1.50 บาท พ้อ ทองยังไม่สวิงขนาดนี้ ถ้าของหมด หันขายอย่างอื่นชั่วคราว

ร้าน หมูปิ้ง 1.50 บาท พ้อ ทองยังไม่สวิงขนาดนี้ ถ้าของหมด หันขายอย่างอื่นชั่วคราว
ร้าน หมูปิ้ง 1.50 บาท พ้อ ทองยังไม่สวิงขนาดนี้ ถ้าของหมด หันขายอย่างอื่นชั่วคราว

ตะวัน หมูปิ้ง 1.50 บาท พ้อ ทองยังไม่สวิงขนาดนี้ ถ้าของหมด หันขายอย่างอื่นแทนชั่วคราว

คุณวาชิ-วชิราภรณ์ พงษ์วรัฎฐกุล เจ้าของร้าน ตะวัน หมูปิ้ง 1.50 บาท ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาหมูพุ่งสูงว่า สถานการณ์หมูแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด ทุกวันนี้ที่ขายอยู่แทบไม่เหลือกำไรแล้ว แต่ก็กัดฟันขาย เพราะถ้าเลิกขายก็ต้องเลิกจ้างพวกเขา เลยเลือกที่จะรักษาลูกน้องไว้ให้ยังมีงานทำกันอยู่

คุณวาชิ-วชิราภรณ์ พงษ์วรัฎฐกุล เจ้าของร้าน ตะวัน หมูปิ้ง 1.50 บาท

“หมูมันแพงมาก แพงที่สุด แพงกว่ารอบ 10 ปี ตอนที่ทำขายแรกๆ เรามีการนั่งดูย้อนหลัง 10 ปีเลยนะว่า หมูมันขึ้นลงถึงเท่าไหร่บ้าง เมื่อก่อน 70, 80 แต่ตอนนี้ขึ้นเกินเท่าตัวเลย แต่ก็กัดฟันขาย เพราะเรามีลูกน้อง ไหนจะคนอื่นที่ทำอาชีพนี้ ที่เขามารับเราไปขายต่ออีก แล้วปกติหมูมันจะชอบขึ้นราคาทุกวันพระ ถ้าขึ้นราคาแบบนั้น การตลาดเราก็เปลี่ยน ลูกค้าก็หายไป มันก็ไม่ใช่ ก็มีคุยกับพนักงานทุกคนในร้านว่า เราจะเอายังไงต่อกันดี หรือจะพักเมนูนี้ แล้วหันมาขายอย่างอื่นอย่างไก่ เป็นข้าวยำไก่อะไรพวกนี้ ตอนนี้ก็ดูๆ กันอยู่”

“บอกเลยว่าเหนื่อยมาก โอเคการที่เราไม่ขึ้นราคาขาย มันทำให้ยอดสั่งยอดจองเราพุ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน เยอะกว่ามากด้วยซ้ำ แต่เราทำได้แค่พยุง เพราะหมูหลายๆ เจ้าที่เขาส่งขายให้เรา เขาก็บอกๆ กันว่า เขาจะหยุดขายแล้วเหมือนกันเพราะสู้ราคาไม่ไหว ถ้าราคาหมูยังเป็นแบบนี้อยู่ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะยื้อขายแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้หมูล็อตที่สั่งมาล่าสุด ถ้ามันหมดล็อตแล้วก็คงพักไว้ แล้วหันไปขายอย่างอื่นแทนก่อน แต่ตอนนี้ก็ได้แต่สู้ให้ถึงที่สุดค่ะ”

นอกจากนั้น คุณวาชิ ยังเผยว่า การจะขึ้นราคาขายเหมือนคนอื่นๆ หากจะทำให้ราคากลับมาเท่าเดิม ก็เป็นเรื่องยาก ณ ตอนนี้ เพราะเธอก็ไม่รู้ว่า ราคาจะดีขึ้น กลับมาราคาเดิมเมื่อไหร่ แม้ว่าลูกค้าจะเข้าใจ แต่ก็ส่งผลต่อการทำการตลาดของแบรนด์ และทำให้คนคิดมากกว่าเดิมในการซื้อ ทำให้ขายยากขึ้นตาม