จอนนอนไร่ ขอบาย ไม้กระแส อะไรไม่กิน จะไม่ยุ่ง หวั่นตลาดผันผวนแล้วเครียด

จอนนอนไร่ ขอบาย ไม้กระแส อะไรไม่กิน จะไม่ยุ่ง หวั่นตลาดผันผวนแล้วเครียด
จอนนอนไร่ ขอบาย ไม้กระแส อะไรไม่กิน จะไม่ยุ่ง หวั่นตลาดผันผวนแล้วเครียด

จอนนอนไร่ ขอบาย ไม้กระแส อะไรไม่กิน จะไม่ยุ่ง หวั่นตลาดผันผวนแล้วเครียด

คุณตุ้ย-เสกสรรค์ อุ่นจิตติ อดีตครีเอทีฟมือทองแห่งวงการโฆษณา ปัจจุบันผันตัวมาเป็นเกษตรกรปลูกผัก-ดอกไม้-สมุนไพร ออร์แกนิก ใช้ชื่อ จอนนอนไร่ บนพื้นที่หลายไร่ อยู่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ควบคู่ไปกับการเปิดบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่มีเขาเป็นซีอีโอและพนักงานในคนเดียวกัน

นับเป็นเวลาเกือบสิบปี ที่คุณตุ้ย เอาจริงเอาจังกับการทำไร่ เริ่มต้นด้วย มอตโต้ “ไม่แปลก ไม่ปลูก” ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลีหัวยักษ์ แคร์รอตสารพัดสี จากนั้นเขาก็ใช้วิชาโฆษณา มาช่วยเล่าเรื่อง นำเสนอมุมมองสไตล์เกษตรครีเอทีฟ กระทั่งปัจจุบัน จอนนอนไร่ มีเอฟซี ไม่น้อยเลยทีเดียว

“ผมเป็นมนุษย์ 2 ร่าง กลางวันเป็น จอน กลางคืนเป็น ตุ้ย และมี 2 ขั้ว คือ บ้าคลั่ง กับ ใช้ตรรกะ ในคนเดียวกัน” อดีตครีเอทีฟคนดังวงการโฆษณา เริ่มต้นบทสัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ อย่างนั้น

ก่อนบอกทีเล่นทีจริง ขณะที่พูดคุยกันอยู่นี้ เขาคือ จอน เพราะเป็นเวลากลางวัน ซึ่งกำลังมีภารกิจอยู่ในไร่

จอนนอนไร่

จบมัณฑนศิลป์ ทำไมปลูกต้นไม้ได้สารพัด แม้แต่ไม้เมืองนอกเมืองนา ยังสั่งเมล็ดมาปลูกได้งามเหลือเชื่อ เกี่ยวกับประเด็นสงสัยเริ่มต้นนี้ คุณจอน อธิบายสั้นๆ

“ต้นไม้พูดไม่ได้ แต่คุณต้องเข้าใจมันให้ได้ คุณต้องรู้ต้นไม้ รักอะไร เกลียดอะไร ไม่อยากเจออะไร แค่นั้นเอง หัวใจมันมีแค่นี้”

เมื่อชวนคุยถึงกระแส กล้วยด่าง ไม้ด่าง บอนสี ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมขณะนี้ คุณจอน บอก อะไรที่ไม่กิน เขาจะไม่ยุ่ง และหากมีโอกาส จะแนะนำผู้คนในแวดวงเกษตรอยู่เสมอ ควรปลูกของที่ตัวเองและครอบครัวกิน เพราะมีโอกาสที่ตลาดผันผวน แล้วถ้าไม่มีใครซื้อตัวที่ปลูกนั้นล่ะ ใครจะกิน แต่ถ้าปลูกผักที่บ้านเรากินแน่ๆ มันจะรอด และไม่เครียด

“ปลูกผักห้ามเครียด ซึ่งตัวเองยอมรับนะว่ามีความเครียดอยู่บ้าง เวลาตลาดผันผวน แต่เราก็กินมันอยูดี ชีวิตเดินต่อไปได้ นี่เป็นกติกาที่ผมชอบใช้อยู่” คุณจอน บอกกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ อย่างนั้น

จริงจังสมุนไพร ทั้งปลูก ทั้งแปร

ทราบว่าช่วงโควิด หันมาจริงจังกับการปลูกสมุนไพร คุณจอน บอก สนใจสมุนไพรมาก่อนที่จะมีโควิด จึงจัดสรรพื้นที่ในไร่ให้เป็นสวนสมุนไพรหลายชนิด จนคนใกล้ชิดออกปาก ปลูกทำไม ไม่เห็นจะทำอะไรได้ ก็ไม่ตอบอะไร ทดลองทำไปแบบเงียบๆ เป็นเหมือนงานสาธิต ทำทีละหย่อม เพราะการลองทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้ทำให้โลกแตก

พาชมไร่

“จะไม่เอาเงินขึ้นนำเป็นสิ่งแรก แต่ทุกครั้งที่ทำอะไรออกมา ตอนจบต้องเป็นเงิน เพราะถ้าเอาเงินเป็นตัวตั้งคุณจะเครียด ซึ่งผมไม่สนใจเงินอยู่แล้ว ส่วนตุ้ย จะคอยเตือน อะไรทำเงินได้ อะไรเป็นของเล่น คือทำแล้วสนุก แต่ไม่ใช่สนุกเลื่อนเปื้อน แต่ต้องหาทางให้เป็นธุรกิจให้ได้” คุณจอน ว่าอย่างนั้น

ก่อนสนทนาต่อ เวลานี้ ในไร่ของเขา มีผักพื้นฐานที่ทำอยู่ คือ จิงจูฉ่าย เป็นผักที่กล้าพูดว่า เขาเป็นคนปลุกกระแสตลาดให้กลับมาได้ ซึ่งแต่ก่อนนี้หายไปจากเมืองไทยพอสมควร จะเหลือปลูกกันอยู่บ้างแค่ทางภาคเหนือของไทย

“ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ไปกินต้มเลือดหมูที่เยาวราช พอกินผักเข้าไปต้องถุยออกเลย มันขมมาก โกรธอาม่า ตะโกนถามเอาอะไรมาใส่ ตำลึงอยู่ไหน เลยโดนด่ากลับ ลื้อไม่รู้อะไร เนี่ยผักเทวดา ก็จำไว้ เฮ้ย! น่าสนใจ แต่มันขม ไม่อร่อย จึงพยายามเสาะหา กระทั่งได้พันธุ์ดีจากอำเภอเทิง เชียงราย มาปลูกเริ่มต้น 300 หน่อ และถูกพัฒนาจนได้รสชาติดีขึ้นอีก” คุณจอน เล่าสนุก

ไร่ออร์แกนิก

ก่อนเผยให้ฟัง จิงจูฉ่าย ปลูกได้ทุกที่ เป็นผักเหมือนพระเจ้าให้มา ชอบชื้นแต่ห้ามแฉะ ไม่มีศัตรูพืช อยู่ได้ทุกสภาพอากาศ ภาคใต้ก็ปลูกได้ แต่ข้อสำคัญต้องอยู่ใต้ร่มไม้ห้ามอยู่กลางแจ้ง ถ้าปลูกที่บ้านให้ใส่กระถางเพื่อจะได้ขนย้ายหนีแสงได้ ราคาที่ขายได้อยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท

นอกจากปลูกแล้ว คุณจอน ยังมีการแปรรูปด้วย ล่าสุดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ โยเกิร์ตดอกไม้ ทำจากดอกอัญชัน และ ดอกกุหลาบ สายพันธุ์บิชอปคาสเซิล ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในเรื่องของกลิ่นนำมาทำน้ำหอม

ผลิตภัณฑ์แปรรูป

“จะขายของได้ คุณต้องสร้างแบรนด์ ไม่ใช่ปลูกแบบไม่มีทิศทาง ผมแจกทองเหรอ เขาถึงต้องมากินผัก       ของผม ซึ่งแบรนด์สำหรับผมแล้ว คือ ตัวตน ต้องสร้างแบรนด์จากลักษณะของตัวคุณเอง โลกวันนี้ เป็นตัวตนที่แท้จริงที่สังคมรู้จักคุณ ผลิตภัณฑ์กับคนขายของ จึงต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน” คุณจอน แนะทิ้งท้าย

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565