ภารกิจดึงทุนต่างชาติ 6 แสนล้าน

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงการบริหารงานจาก พ.ร.บ.ฉบับปัจจุบันมาสู่ 2 พ.ร.บ.ใหม่ คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ กับ พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดย พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับได้ให้เครื่องมือและขอบเขตในการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ถึงภารกิจของ BOI ในปี 2560

– เป้าหมายส่งเสริมลงทุนปี′60

เดิมทีเราตั้งเป้าหมายคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2559 ไว้ที่ 450,000 ล้านบาท แต่พอมาถึงช่วงกลางปีในช่วงเดือนกันยายน เมื่อดูตัวเลขคำขอที่เข้ามาแล้ว BOI ได้ปรับเป้าหมายเป็น 550,000 ล้านบาท โดยที่เราปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็นเพราะ 1) สิทธิประโยชน์ที่ BOI ทำการปรับเป็นแพ็กเกจต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ที่จะต้องยื่นขอรับการส่งเสริมก่อนสิ้นปี 2559

2) เรื่องของความมั่นใจกลับมาค่อนข้างชัดเจน
หลังจากที่รัฐบาลประกาศโครงการที่จะพัฒนาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และก็ชัดเจนว่า โครงการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในปี 2560 จะทำอะไรบ้าง เป็นความมั่นคงและเห็นอนาคตของประเทศไทยว่า จะก้าวไปทางไหน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการลงทุนและความมั่นใจขึ้น 3) ทรัพยากรบุคคลของไทยเอง แม้จะมีปัญหาเรื่องจำนวน แต่หลายบริษัทยืนยันว่า เขาไม่อยากไปลงทุนที่อื่นเพราะศักยภาพแรงงานไทย ทำให้มีหลายบริษัทเดิมตัดสินใจที่จะย้ายไปต่างประเทศก็หันกลับมาขยายการลงทุนในประเทศไทยต่อไป

สำหรับปี2560 BOI ได้ตั้งเป้ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไว้ที่ 600,000 ล้านบาท โดยคงเน้นย้ำไปที่จะไทยจะได้โครงการที่มีคุณภาพไม่ใช่มูลค่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังไม่นับรวมโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล แม้จะมีหลายโครงการจ่อที่จะเกิด แต่ก็ยังไม่มีโครงการที่ถูกประกาศชัดเจนจากรัฐบาลว่า มีอะไรบ้าง เพราะเมกะโปรเจ็กต์เป็นโครงการกึ่งสัมปทาน จึงต้องเปิดประมูล เราก็ต้องมาดูว่าโครงการไหนสมควรที่ BOI จะเข้าไปส่งเสริมการลงทุน ดังนั้น BOI จึงยังไม่นับโครงการเหล่านี้เข้าไปในเป้าหมาย 600,000 ล้านบาท

– เหตุผลที่จะสู่เป้าหมายนั้น

ปัจจัยที่จะทำให้การลงทุนไปสู่เป้าหมายคำขอรับการส่งเสริม 600,000 ล้านบาท ก็ 1) การปรับปรุง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน กับ พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ จำนวนปีในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตรงนี้เท่ากับ BOI จะมีเครื่องมือส่งเสริมลงทุนเพิ่มมากขึ้นจาก พ.ร.บ.ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่สำคัญก็คือ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน BOI สามารถนำสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นไปเสนอเป็นแพ็กเกจให้กับนักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เราต้องการ ทางหนึ่งคือตอบสนองสิ่งที่นักลงทุนต้องการ อีกทางหนึ่งตอบโจทย์ให้ไทยได้โครงการที่ดีและมีคุณภาพเข้ามาลงทุนในประเทศ

2) การบริการและการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในสิ่งที่นักลงทุนเรียกร้องเข้ามา
ตอนนี้ BOI ได้ประมวลข้อเรียกร้องเหล่านั้นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาแล้ว อาทิ การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การผ่อนคลายเรื่องการอนุญาตทำงานของชาวต่างชาติ (Work Permit Visa) เพราะนอกเหนือไปจากเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแล้ว การอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนจะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย

3) โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเริ่มต้นในปีหน้
า จะช่วยยกระดับพื้นที่ตั้งอุตสาหกรรมและบริการที่จะเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก ระยอง-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา จะทำให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาพื้นที่ และอุตสาหกรรมเป้าหมายก็จะตามเข้ามา

– พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถถึงไหนแล้ว

ความจริงตอนนี้ BOI ไปดูทั้ง 2 พ.ร.บ. คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ กับ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดย ครม.มีมติให้ BOI เป็นผู้บริหารกองทุนในส่วนนี้ ทำให้ BOI ต้องปรับโครงสร้างภายในเพื่อรองรับ พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ให้นักลงทุนเดินเข้ามาแล้วเป็น One Stop Service

สำหรับรูปแบบการบริหารภายใต้ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เบื้องต้นจะมีการตั้ง หน่วยพิเศษ ขึ้นมาอยู่ภายใต้โครงสร้าง BOI ปัจจุบัน เพื่อลงรายละเอียดงานเวลาวิเคราะห์โครงการประสานกับบริษัท และมีทีมเจรจา เช่น นักลงทุนเข้ามาคุยอยากได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนนี้ แต่เขาไม่เข้าเงื่อนไข ก็ต้องมีคนมาช่วยอธิบายว่า เขาไม่เข้าเงื่อนไขอย่างไร หรือทำอย่างไรจะเข้าเงื่อนไขนี้หรือไม่ เข้าแล้วจะไปใช้เงื่อนไขอื่นได้หรือไม่ ตอนนี้ฟอร์มทีมหน่วยพิเศษขึ้นมาแล้ว 7 คนเตรียมงานเสร็จแล้ว ส่วนในระยะต่อไปเมื่อมีคนเข้ามาติดต่อมากขึ้น เราก็จะกระจายคนไปสู่แต่ละช่องทางตามแต่ละกลุ่มประเภทกิจการที่มีอยู่แล้ว (เกษตรและผลิตผลการเกษตร-แร่/เซรามิก/โลหะขั้นมูลฐาน-อุตสาหกรรมเบา-ผลิตภัณฑ์โลหะ/เครื่องจักร/อุปกรณ์ขนส่ง-อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์-เคมีภัณฑ์/พลาสติก/กระดาษ-กิจการบริการและสาธารณูปโภค)

เวลาโครงการของนักลงทุนเข้ามามันก็จะทับซ้อนปนอยู่ในหมวดปกติทั้ง7 หมวด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนใน Track ปกติกับ Track พิเศษ หมายถึงในสำนักจะต้องทำงานได้ทั้ง 2 Track เพื่อไปเจรจาต่อรองเช่นว่า คุณอยากได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม แล้วคุณจะให้อะไรเรา พิเศษกว่าที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นภารกิจที่ท้าทายและยากมาก สรุปก็คือภารกิจท้าทายของ BOI ในปี 2560 ก็คือการรัน พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฉบับนี้

สถานะล่าสุดของทั้ง 2 พ.ร.บ.ก็คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ได้ผ่านการพิจารณาของ สนช.แล้ว ส่วน พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 2 คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในต้นปี 2560

– ส่งเสริมลงทุนตามมาตรการพิเศษ

มาตรการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการพิเศษที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี2558 จนถึงสิ้นปี 2559 ก็จะมีเรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2559 นี้ โดย 11 เดือนแรกมีโครงการขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้ 48 โครงการ เงินลงทุน 52,743 ล้านบาท มีกิจการเป้าหมายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คลัสเตอร์ แต่ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการส่งเสริม เพราะยังไม่มีความร่วมมือกับสถาบันทางการศึกษาอีก 64 โครงการ เงินลงทุน 62,363 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแทน (ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 8 ปี แต่ไม่ได้ลดหย่อนภาษี 50% อีก 5 ปี) โดยมาตรการพิเศษตามนโยบายคลัสเตอร์ 2 ยอดนี้รวมกันได้ถึง 115,106 ล้านบาท เรายอมรับว่าสิทธิประโยชน์ตามมาตรการคลัสเตอร์นี้ดี แต่ก็ต้องจบในปีนี้ ส่วนปี 2560 ก็จะไปพิจารณาให้ตาม พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแทน

มาตรการส่งเสริมการลงทุนในท้องถิ่นก็จะสิ้นสุดลงในปี 2559 นี้เช่นกัน โดย 11 เดือนมีโครงการขอรับส่งเสริม 20 โครงการ เงินลงทุน 219 ล้านบาท มาตรการส่งเสริม SMEs มี 106 โครงการ เงินลงทุน 3,366 ล้านบาท และมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 26 โครงการ เงินลงทุน 3,164 ล้านบาท

– BOI ในปี 2560

นอกจากเรื่องของการรัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ กับ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแล้ว BOI ยังคงยืนเรื่องของ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์/ชิ้นส่วน, เครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์, การแพทย์, ดิจิทัล, อากาศยาน, ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย BOI จะไปเจาะลึก 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายแล้วกระจายออกมาว่า อุตสาหกรรมใดที่เราอยากได้ จะเข้าไปเจาะเป็นรายบริษัทมากขึ้น มีการจ้างที่ปรึกษาในแต่ละประเทศช่วยบอกเป้าหมายให้กับเรา

ปี 2560 BOI จะเป็น New Chapter Investment ปัจจุบันหลายคนมองว่า ทำไมเรามีแต่ตัวเลขยอดขอรับการส่งเสริม เพราะตัวเลขการลงทุนนั้น BOI จะเป็นผู้ดูแลยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน แต่อย่าลืมว่าการลงทุนทั้งหมดไม่ได้มาจาก BOI เพียงหน่วยงานเดียว เราเป็นแค่ส่วนหนึ่ง การลงทุนยังมาจากส่วนอื่น ๆ อีก แต่ BOI จะเป็นส่วนที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยและประเทศไทยก้าวไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถยกระดับได้ในที่สุด