รวมมิตร แบงก์รัฐแจกของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน แบบจัดหนัก

รวมมิตร แบงก์รัฐแจกของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน แบบจัดหนัก
รวมมิตร แบงก์รัฐแจกของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน แบบจัดหนัก

รวมมิตร แบงก์รัฐแจกของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน แบบจัดหนัก

ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 65 ให้ลูกค้าทั้งคนกู้คนฝาก กู้ดีมีวินัย รับ 500 บาท

ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 65 ให้ลูกค้าทั้งคนกู้คนฝาก กู้ดีมีวินัย รับ 500 บาท
ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 65 ให้ลูกค้าทั้งคนกู้คนฝาก กู้ดีมีวินัย รับ 500 บาท

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำมาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 มอบให้ทั้งลูกค้าเงินกู้และลูกค้าเงินฝาก

ในส่วนของลูกค้าเงินกู้ มอบของขวัญผ่านโครงการวินัยดีมีเงิน สำหรับลูกค้าสินเชื่อเดิมที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 แสนบาท มีประวัติการชำระหนี้ดีติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี มีสถานะหนี้ปกติ (ค้างชำระไม่เกิน 30 วัน) ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือประวัติการตัดหนี้สูญ จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีเป็นเงิน 500 บาท

โดยธนาคารจะแจ้งสิทธิให้ลูกค้าที่มีคุณสมบัติดังกล่าวทราบทาง MyMo และขอให้กดรับสิทธิภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 โดยธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564

ส่วนของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าเงินฝาก ธนาคารได้จัดแคมเปญส่งเสริมการออม สำหรับผู้ฝากสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี โดยเพิ่มรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท จำนวน 20 รางวัล รวมเป็นเงิน 20 ล้านบาท ผ่านโครงการสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี ฉลองปีใหม่ 2565

ทั้งนี้ จะต้องเป็นผู้ฝากสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564-วันที่ 15 มีนาคม 2565 กำหนดออกรางวัลจำนวน 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 วันที่ 16 มีนาคม 2565 จำนวน 10 รางวัล ครั้งที่ 2 วันที่ 16 เมษายน 2565 จำนวน 10 รางวัล) สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี รับฝากหน่วยละ 20 บาท ไม่จำกัดวงเงินฝากต่อราย มีสิทธิลุ้นถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 3 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย โดยเงินรางวัลไม่เสียภาษี

ธ.ก.ส. จัดโครงการชำระดีมีคืน-นาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ให้เกษตรกรลูกค้า

ธ.ก.ส. จัดโครงการชำระดีมีคืน-นาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ให้เกษตรกรลูกค้า
ธ.ก.ส. จัดโครงการชำระดีมีคืน-นาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ให้เกษตรกรลูกค้า

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในการลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้า จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 

โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2564 สำหรับเกษตรกรลูกค้า ที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรง ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยจะมีเกษตรกรลูกค้าได้รับประโยชน์กว่า 4.1 ล้านราย

และโครงการนาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าที่มีภาระหนี้ค้างชำระ หรือลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดย ธ.ก.ส. จะลดดอกเบี้ย ดังนี้

1. กรณีชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา จะลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ไม่เกินร้อยละ 50 ณ วันชำระหนี้ 2. กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น แต่ไม่สามารถชำระต้นเงินได้ จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง

3. กรณีชำระดอกเบี้ยได้บางส่วนจะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 4. กรณีกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้นหรือบางส่วน จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง

นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อชำระหนี้แล้ว ลูกค้าสามารถรับการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-555-0555

ธอส. มอบของขวัญ ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ผ่อนดี 48 เดือน รับเงิน 500 บาท / 1,000 บาท

ธอส. มอบของขวัญ ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ผ่อนดี 48 เดือน รับเงิน 500 บาท / 1,000 บาท
ธอส. มอบของขวัญ ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ผ่อนดี 48 เดือน รับเงิน 500 บาท / 1,000 บาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส. ที่มีวินัยในการผ่อนชำระย้อนหลังรวม 48 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2564) ชำระเงินงวดสม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน

โดย ธอส. ได้ประกาศเริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งถือเป็นการส่งมอบความสุขให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และส่งเสริมการมีวินัยทางการเงินในการผ่อนชำระเงินงวดสินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าธนาคาร โดยแบ่งของขวัญออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ได้รับเงิน 1,000 บาท สำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติ 1. วงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 2 ล้านบาท 2. มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เคยปรับโครงสร้างหนี้) 3. กรณีลูกค้ารายย่อย ต้องชำระเงินงวดผ่านแอพ GHB ALL ในงวดชำระเดือนพฤศจิกายน-งวดชำระเดือนธันวาคม 2564 และกรณีลูกค้าสวัสดิการ ให้หักเงินเดือนเพื่อผ่อนชำระผ่านหน่วยงานตามปกติ 4. ลูกค้ามีแอพ GHB ALL หรือสมัครใช้งานใหม่ ที่ไม่มีบัญชีออมทรัพย์ ต้องเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับรับโอนเงินของขวัญปีใหม่จากธนาคาร

กลุ่มที่ 2 ได้รับเงิน 500 บาท สำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติ 1. ต้องไม่ใช่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในกลุ่มที่ 1 (ที่ได้รับสิทธิ์เงิน 1,000 บาท) 2. มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เคยปรับโครงสร้างหนี้) 3. กรณีลูกค้ารายย่อย ต้องชำระเงินงวดผ่านแอพ : GHB ALL ในงวดชำระเดือนธันวาคม 2564 หรืองวดชำระเดือนมกราคม 2565 และกรณีลูกค้าสวัสดิการ ให้หักเงินเดือนเพื่อผ่อนชำระผ่านหน่วยงานตามปกติ 4. ลูกค้าที่ไม่เคยมีแอพ : GHB ALL ให้สมัครใช้งาน GHB ALL และเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับรับโอนเงินของขวัญปีใหม่จากธนาคาร

ลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการที่ธนาคารกำหนด จะได้รับโอนเงินของขวัญปีใหม่เข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธอส. ที่ลูกค้าผูกบัญชีไว้กับแอพ : GHB ALL เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในด้านที่จำเป็นและสนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 ต่อไป

โดย ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ธนาคารโอนเงินของขวัญปีใหม่เข้าบัญชีลูกค้าแล้ว 6,726 ราย วงเงินรวม 6,736,500 บาท แบ่งเป็น ผู้ที่รับเงินโอน 1,000 บาท จำนวน 6,717 ราย คิดเป็นวงเงิน 6,717,000 บาท และลูกค้าที่ได้รับเงินโอน 500 บาท จำนวน 39 ราย คิดเป็นวงเงิน 19,500 บาท

EXIM BANK ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี ช่วยผู้ส่งออก

EXIM BANK ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี ช่วยผู้ส่งออก
EXIM BANK ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี ช่วยผู้ส่งออก

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่กำลังซื้อในประเทศยังมีโอกาสเติบโตได้น้อยจากข้อจำกัดหลายด้าน 

ขณะที่เศรษฐกิจโลกในปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องจากปี 2564 โดยคาดว่าจะขยายตัว 4.9% ตลาดส่งออกสำคัญของไทย อาทิ สหรัฐฯ จีน อินเดีย และเวียดนาม ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวดี ช่วยให้ไทยมีโอกาสส่งออกได้มากขึ้นในหลายตลาด

ดังนั้น EXIM BANK จึงพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ส่งออกได้มากขึ้นโดยเร็ว และแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวในการเตรียมความพร้อมให้ผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะ SMEs สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่มีสะดุด และก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ EXIM BANK จึงออกมาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 ดังนี้

  1. EXIM BANK ปันยิ้ม-ส่งมอบรอยยิ้มด้วยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
  • สินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan สนับสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ ก่อสร้างอาคารโรงงาน หรือมีการลงทุนใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการปรับตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รองรับโลกยุค Next Normal อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปีใน 2 ปีแรกวงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี ฟรี! ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 3 ปี กรณีใช้โครงการ บสย. SMEs นำเข้า-ส่งออก
  • สินเชื่อ EXIM Jump Start เติมทุน เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างก้าวกระโดดหลังจากสถานการณ์โควิด-19 วงเงินสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงิน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปีใน 2 เดือนแรก จากปกติปีแรก 3% สำหรับลูกค้ารายใหม่และรายเดิม
  1. EXIM BANK ปันสุข-ส่งมอบความสุขด้วยบริการประกันการส่งออกที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ โดย EXIM BANK จะยกเว้นค่าวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน 1 รายต่อกรมธรรม์ สำหรับผู้เอาประกันรายใหม่ หากมีกรมธรรม์ประกันการส่งออกอยู่แล้วจะได้รับส่วนลด 50% สำหรับค่าวิเคราะห์ข้อมูล 2 รายต่อกรมธรรม์ มูลค่าสูงสุด 3,000 บาทต่อราย
บสย. จัดหนัก 2 มาตรการเพื่อ SMEs ฟรีค่าดำเนินการค้ำ-ผ่อนน้อย เบาแรง
บสย.จัดหนัก 2 มาตรการเพื่อ SMEs ฟรีค่าดำเนินการค้ำ-ผ่อนน้อย เบาแรง
บสย. จัดหนัก 2 มาตรการเพื่อ SMEs ฟรีค่าดำเนินการค้ำ-ผ่อนน้อย เบาแรง

นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ได้จัดเตรียมแพ็กเกจของขวัญปีใหม่มอบให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนในช่วงฟื้นประเทศ รวม 2 มาตรการ ได้แก่

1. มาตรการลูกค้า บสย.

  • สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ขอสินเชื่อและขอรับการค้ำประกันสินเชื่อในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 9 “ฟรีค่าดำเนินการค้ำประกัน”
  • ผู้ประกอบการ SMEs ต้องส่งคำร้องขอค้ำประกันสินเชื่อ ระหว่าง 1-31 มกราคม 2565
  • ประมาณวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 5,500 ล้านบาท

2. มาตรการลูกหนี้ บสย. : “ผ่อนน้อย เบาแรง” เพิ่มความคล่องตัวให้ลูกหนี้

  • สำหรับลูกหนี้ค้ำประกันสินเชื่อที่ประนอมหนี้กับ บสย.
  • ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2565
  • ลดค่างวดลงสูงสุด 80% (จ่ายขั้นต่ำ 500 บาทต่องวด)
  • ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน สิ้นสุดไม่เกินเดือน มิ.ย. 2565