2 คาถา จำให้ขึ้นใจ ซื้อ-ขาย ของออนไลน์ ให้ปลอดจากภัยไซเบอร์

จำให้ขึ้นใจ ซื้อ-ขาย ของออนไลน์ ให้ปลอดจากภัยไซเบอร์
จำให้ขึ้นใจ ซื้อ-ขาย ของออนไลน์ ให้ปลอดจากภัยไซเบอร์

2 คาถา จำให้ขึ้นใจ ซื้อ-ขาย ของออนไลน์ ให้ปลอดจากภัยไซเบอร์

ปัจจุบันภัยไซเบอร์ขยายวงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะภัยคุกคามในภาคการเงิน ถ้าหลวมตัวตกหลุมพรางของมิจฉาชีพ ความสูญเสียอาจไม่จำกัดอยู่เพียงแค่เงินในบัญชีของเหยื่อเท่านั้น แต่อาจถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้สร้างบัญชีแฝง ซึ่งจะทำให้เหยื่อตกเป็นแพะรับบาปที่ยากต่อการจำกัดขอบเขตความเสียหายได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แนะ คาถารักษาตนให้รอด ปลอดจากภัยไซเบอร์อันเกิดจากคนหลอกคน (Social Engineering) โดยป้องกันไม่ให้ติดกับดัก และสามารถฝ่าด่านการล่อ-ลวงของมิจฉาชีพ ทำให้ไม่อาจล้วงข้อมูลส่วนตัวของเราไปก่อความเสียหายได้ ดังนี้

1. อย่ายอมให้ความไม่รู้ เชื่อคนง่าย พาให้อับจน

รูปแบบเดิมๆ เทคนิคเก่าๆ เช่น แอบอ้างเป็นพนักงานในองค์กรที่น่าเชื่อถือ เช่น ธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานรัฐ ฯลฯ โทรมาถามข้อมูลส่วนตัวต่างๆ รวมทั้งการสอบถามรหัส OTP ซึ่งถ้าพบเจอคำถามลักษณะนี้ ไม่ควรไว้ใจ ไม่ใช่พนักงานตัวจริง

เพราะธนาคารมีระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า โดยไม่เป็นฝ่ายติดต่อสอบถามข้อมูลจากลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการโทร ส่งลิงก์ทาง SMS, แอพแชต และอีเมล แต่ให้ลูกค้าเป็นฝ่ายติดต่อกลับเข้ามาผ่านเว็บไซต์ทางการ ทั้งนี้ หากสงสัยในการกรอกข้อมูลใดๆ บนธุรกรรมออนไลน์หรือเว็บไซต์ ควรติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อน

2. ระวังข้อมูลบัตรรั่วไหล

ทุกครั้งที่รูดใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต เป็นการเปิดประตูให้ผู้อื่นเข้าถึงข้อมูลบัญชีบัตร ไม่ว่าจะเป็นการรูดบัตรที่ร้านค้าบริการโดยตรง หรือการกรอกข้อมูลบัญชีบัตรเพื่อชำระเงินบนออนไลน์ ขอแนะนำแนวทางป้องกันที่จัดการได้ด้วยตัวเรา ดังนี้

2.1 ทำลายรหัสความปลอดภัยหลังบัตร (CVV) ที่กำหนดเป็นตัวเลข 3 หลัก โดยอาจแยกบันทึกเก็บไว้ต่างหาก เพราะรหัส CVV นี้เป็นรหัสรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง สำหรับให้ผู้ถือบัตรยืนยันตัวตนเมื่อใช้บัตรเพื่อชำระเงินออนไลน์ ซึ่งในทางปฏิบัติ มีผู้ถือบัตรจำนวนมากไม่ทำลายรหัส ทำให้อาจถูกขโมยข้อมูลได้โดยง่าย และเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำไปใช้รูดซื้อออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้

2.2 หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตร และรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลบัตรไปใช้รูดจ่ายบนออนไลน์ที่มีมูลค่าต่อรายการไม่สูง

2.3 ปฏิเสธหรือยกเลิกการทำรายการชำระเงิน เมื่อพบเห็นระบบความปลอดภัยของร้านค้าออนไลน์ที่ต่ำ โดยไม่มีระบบการให้ยืนยันด้วยรหัส OTP (รหัสใช้ครั้งเดียวที่ส่งมายังหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกบัญชีบัตร)

2.4 กำหนดวงเงินใช้จ่ายต่อวันและต่อรายการของบัญชีเงินฝากและบัญชีบัตร เพื่อจำกัดขอบเขตความเสียหาย ซึ่งอาจกำหนดได้ต่ำสุดที่ 0 บาทสำหรับบัตรที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน และค่อยแก้ไข/ปรับเพิ่มวงเงินเมื่อต้องการทำรายการ โดยสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลาผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารเจ้าของบัญชี