ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ครั้งแรกของวงการเพลงไทย Plern (เพลิน) แอพฟังเพลงใหม่ ที่เข้าใจคนฟังเพลง ตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน 5 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือน ภายใน 1 ปี
GMM Grammy เปิดตัว Plern (เพลิน) แอพพลิเคชั่นฟังเพลงใหม่ ที่คิดจากคนทำเพลง เพื่อคนฟังเพลง เดินหน้ารุกตลาดสตรีมมิ่ง ผ่านการร่วมมือกันกับค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศไทย พร้อมเขย่าวงการมิวสิคสตรีมมิ่งไทย นำเสนอ 4 จุดเด่นที่จะมาทลายทุกข้อจำกัดการฟังเพลงแบบเดิมๆ
คัดสรรคอนเทนต์ให้ถูกใจคนไทยอย่างทั่วถึงส่งตรงจากค่ายเพลง พร้อมหลากหลายฟีเจอร์ที่จะทำให้การฟังเพลงลื่นไหล ไม่มีสะดุด ให้คนได้เพลินสมชื่อ โดยใช้พันธมิตรระดับโลกอย่างบริษัท Tuned Global เข้ามาช่วยพัฒนาแอพ เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบไร้ที่ติเทียบเท่ากับแอพพลิเคชั่นระดับโลก ตั้งเป้ายอดผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นไว้ที่ 5 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือนภายในช่วงปีแรก
นายอัศวิน โรจน์เมธาทวี รองกรรมการผู้อำนวยการ หน่วยงาน GMM Stream กล่าวว่า การเปิดตัวมิวสิคสตรีมมิ่งแอพพลิเคชั่น “Plern” ในครั้งนี้ ถูกสร้างโดยคนทำเพลงตัวจริง และออกแบบอิงจากช่องว่างในตลาดการฟังเพลง ที่ผู้ใช้งานยังไม่ได้รับการเติมเต็ม โดยเราเริ่มตั้งต้นจากการทำวิจัยตลาด พบว่า ผู้ใช้งานปัจจุบันนิยมฟังเพลงผ่านสมาร์ตโฟน และกลุ่มที่ใช้สมาร์ตโฟนในประเทศไทย มีขนาดของตลาดถึง 45-50 ล้านคน แต่ผู้ใช้แอพสตรีมมิ่งรวมกันกลับมีจำนวนเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น
จากการวิจัยการตลาดในครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าศึกษาหาสาเหตุที่จำนวนผู้ใช้แอพสตรีมมิ่งมีน้อยกว่าขนาดของตลาด ส่วนหนึ่งเพราะตลาดแอพสตรีมมิ่งในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึง ที่ไม่สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนฟังเพลงที่มีความหลากหลาย รวมถึงปัญหา (Pain Points) ในอีกหลายๆ จุด
ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนฟังเพลงผ่านแอพวิทยุ ที่พบปัญหาหลักที่ไม่สามารถเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้เอง และยังไม่พร้อมเปลี่ยนไปสู่แพลตฟอร์มการฟังเพลงแบบอื่นๆ เพราะคุ้นชินกับความง่ายและมีความชอบในการฟังเพลงวิทยุเป็นระยะเวลายาวแบบเดิม หรือกลุ่มคนฟังเพลงผ่านแอพวิดีโอแชร์ริ่ง ที่มักประสบปัญหากับการฟังเพลงบนแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างมาเพื่อดูวิดีโอ และไม่สามารถล็อกหน้าจอระหว่างฟัง
หรือสลับหน้าจอเพื่อทำกิจกรรมอย่างอื่น และปัญหาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตวันละหลายๆ ชั่วโมง ที่สิ้นเปลือง และมักทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดเร็ว รวมถึงปัญหาโฆษณาคั่นกลางเพลง ที่ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงต้องสะดุด และอีกหลายข้อจำกัดที่ทำให้คนไทยไม่หันมาใช้แอพสตรีมมิ่ง อาทิ แพ็กเกจค่าบริการรายเดือนราคาแพง ช่องทางการจ่ายเงินที่จำกัด ข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ต ดีไซน์การใช้งานของแอพสตรีมมิ่งที่ใช้งานยาก หรือคอนเทนต์เพลงที่ไม่ครอบคลุมในทุกความต้องการของคนไทยที่ไม่ใช่แค่คนเมือง ฯลฯ
เราจึงเริ่มต้นพัฒนาตัวแอพให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ ผ่านความร่วมมือกันระหว่างค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศไทย อาทิ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน), เซิ้ง มิวสิก, Top Line Music, Sure Entertainment, เสียงสยาม แผ่นเสียง-เทป, ซาวด์มีแฮง เรคคอร์ด, BigLove Smile House, Solution One อาทิ Khotkool Music, Khaosan Group, Mindset Mob, ได้หมดถ้าสดชื่น, พอดีม่วน Studio, บังเอิญ มิวสิค, MAN’R
รวมถึง Believe และค่าย/ศิลปินอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต อาทิ YoungOhm, Urboy TJ, ไหทองคำเรคคอร์ด, Sing Music, กีตาร์เรคคอร์ด พร้อมดึงพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกอย่าง บริษัท Tuned Global เข้ามาช่วยพัฒนาแอพเพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงเทียบเท่ากับแอพพลิเคชั่นระดับโลก
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น “Plern” สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่พร้อมทลายทุกกฎข้อจำกัดเพื่อคนไทยที่รักเสียงเพลง ด้วยแอพที่ถูกออกแบบ ให้ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก และหลากหลายฟีเจอร์ภายในแอพ ที่ผ่านการปรับแต่งรายละเอียดการใช้งานต่างๆ จากปัญหาที่เคยสร้างความไม่สะดวก และเป็นอุปสรรคในการฟังเพลงแก่ผู้ใช้งานในแอพอื่นๆ
เพื่อเน้นมอบประสบการณ์การฟังเพลงให้แก่คนไทยที่หลงใหลในเสียงเพลงทุกคน เช่น การฟังเพลงได้ทันทีแบบไม่ต้องลงทะเบียน สามารถฟังเพลงแบบล็อกหน้าจอได้ และการโหลดเพลงฟังแบบออฟไลน์ที่ทำให้หมดกังวลเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถกดข้ามเพลงได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง
นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น Plern ยังครอบคลุมเพลงไทย ทั้งเพลงใหม่ เพลงฮิต และเพลงหาฟังยาก นับเป็นการทลายทุกขีดจำกัด และสร้างประสบการณ์การฟังเพลงรูปแบบใหม่ที่ดีกว่าเดิม เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยแบบไม่มีข้อจำกัด ทำให้การฟังเพลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันได้แบบไม่สะดุด
ทลายทุกข้อจำกัดด้วย 4 จุดเด่นของ Plern
1) Plern Original คอนเทนต์เพลงสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สร้างจากคนทำเพลง เพื่อผู้ใช้ Plern โดยเฉพาะ เอาใจเหล่าสาวกศิลปินให้ได้ชมคอนเทนต์พิเศษจากศิลปินคนโปรด โดยจะมีการออกคอนเทนต์ดังกล่าวในทุกๆ ไตรมาส (เริ่มต้นในปี 2565)
2) Plern Features สเตชั่นเพลงที่ทั้งรู้ใจและรู้จริง คัดสรรเพลงตอบโจทย์หลากอารมณ์ จัดเพลงโดยตัวจริงของวงการเพลงไทยและมีระบบที่เรียนรู้และปรับการแนะนำเพลงให้เข้าใจพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้ฟังได้โดนใจมากขึ้น และกดข้ามเพลงได้
รวมถึงเพลย์ลิสต์ที่แนะนำเพลงใหม่ๆ จากเพลงที่คุณชอบฟัง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการฟังเพลงแบบยาวๆ ของคนไทย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ฟังเพลงแบบออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับเพลงได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต โดยสามารถบันทึกเพลงเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ไม่จำกัด สูงสุดถึง 350 เพลงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและไม่จำกัดสำหรับลูกค้า Plern Premium หรือการสร้างเพลย์ลิสต์เพลงที่ชอบฟังได้ด้วยตนเองแบบไม่จำกัด
3) Plern Premium ยกระดับสู่ประสบการณ์การฟังเพลงที่เหนือชั้น มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับสูง (Lossless quality) ที่มีคุณภาพเทียบเท่าการฟังเพลงผ่านแผ่นซีดีที่จะตามมาต้นปี 2565 และคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพิ่มเติม (Exclusive Content) เช่น เบื้องหลังการสัมภาษณ์ศิลปินคนโปรด นอกจากนี้ การอัพเกรด Plern Premium ยังสามารถทำได้ผ่านวิธีการชำระเงินที่ง่าย หลากหลาย ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยสามารถเลือกจ่ายได้ตั้งแต่ รายสัปดาห์ และรายเดือน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 29 บาทต่อสัปดาห์
4) Plern Privilege สิทธิพิเศษสำหรับคนรักเสียงเพลง อาทิ สามารถซื้อบัตรคอนเสิร์ตได้ล่วงหน้าก่อนใคร ส่วนลดบัตรคอนเสิร์ตและเทศกาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าของศิลปิน และอื่นๆ อีกมากมาย
การมาถึงของแอพพลิเคชั่น Plern ในครั้งนี้ เป็นความต้องการให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพื่อตอบสนองจุดมุ่งหมายที่อยากให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงเสียงเพลง ทลายทุกข้อจำกัดในการฟังเพลง การเข้าถึงความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการฟังเพลง โดยแอพ เพลิน ตั้งเป้าหมายยอดผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นไว้ที่เฉลี่ย 5 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือนภายในช่วง 1 ปีแรก และมียอดตัวเลขคนฟังเพลงยาวนานขึ้น 1.23 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้นทางแอพยังมีแผนออกแคมเปญร่วมกับเหล่าศิลปินชื่อดังเพื่อเอาใจเหล่าแฟนเพลง และทำให้วงการดนตรี กลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายอัศวิน สรุป
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Plern” ได้แล้ววันนี้ที่ [ลิงก์ดาวน์โหลด] สำหรับผู้ใช้งาน iOS และ [ลิงก์ดาวน์โหลด] สำหรับผู้ใช้งานแอนดรอยด์ ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแอพเพิ่มเติมได้ที่ https://plern.co, เฟซบุ๊กแฟนเพจ [Plern – เพลิน] และทวิตเตอร์ [@appplern]