ผู้ประกันตนยื่น “เลขา สปส.” จี้เพิ่มฝากครรภ์-ทันตกรรม โครงการ “ตรวจสุขภาพฟรี”

ความคืบหน้ากรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน ออกสิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพให้กับผู้ประกันตน ตามความจำเป็นของช่วงอายุ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไปนั้น นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กล่าวว่า เวลา 13.30 น. วันที่ 26 ธันวาคม ตนและตัวแทน คปค.จะเข้าพบ นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการ สปส.ที่กระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นข้อเสนอเรื่องสิทธิสำหรับผู้ประกันตน ใน 5 ประเด็น คือ 1.เกี่ยวกับมาตรา 63(2) แนวทางการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ที่ทางคณะแพทย์ประกันสังคมประกาศมานั้น มองว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายคือการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องของการตรวจสุขภาพ จึงมีคำถามว่า เมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วเจอโรคจะมีการส่งต่ออย่างไร เพราะในรายละเอียดไม่ได้บอกเอาไว้ นอกจากนี้ อยากจะให้เพิ่มเรื่องของการตรวจโรคในช่องปาก การตรวจและฝากครรภ์ เข้าไปในโปรแกรมด้วย 2.เรื่องสิทธิประโยชน์ของแรงงานนอกระบบตามมาตรา 40 เช่น ค่าปลงศพ ให้เพิ่มจาก 20,000 บาท เป็น 40,000 บาท เป็นต้น

นายมนัสกล่าวว่า ประเด็นที่ 3 คือ สำหรับผู้ประกันตนที่จะใช้สิทธิรับเบี้ยชราภาพรายเดือนเมื่ออายุครบ 55 ปีนั้น จะหมดสิทธิการรักษาในระบบประกันสังคมทันที โดยจะต้องไปใช้บัตรทองนั้น อยากให้สิทธิการรักษาของประกันสังคมยังคงอยู่ต่อไป 4.กฎหมายประกันสังคม ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ปรากฏว่ากฎหมายลูก 17 ฉบับ ว่าด้วยเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนยังไม่ออกมาบังคับใช้เลย จึงขอเรียกร้องให้มีการเร่งรัดเรื่องนี้ด้วย และประการสุดท้าย เรื่องของทันตกรรมที่ประกันสังคมเพิ่มค่ารักษาจาก 600 บาท เป็น 900 บาทนั้น มองว่าโรคที่เกิดจากช่องปากนั้นสามารถลามไปเพื่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ จึงขอเรียกร้องให้การตรวจโรคในช่องปาก เป็น 1 ในเรื่องของการดูแลสุขภาพด้วย

เมื่อถามว่า การที่ สปส.ประกาศให้ประชาชนสามารถไปตรวจสุขภาพได้ตามสิทธิของผู้ประกันตนนั้น ถือว่าประกาศออกมาฉุกเฉินเกินไป จนบางโรงพยาบาลอาจจะยังไม่มีความพร้อมหรือไม่ นายมนัสกล่าวว่า ความจริงกฎหมายประกันสังคมก็ออกมานานแล้ว ความเรียบร้อยในการจัดการให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างสมบูรณ์โดยไม่ติดขัดก็ควรจะมีมาตั้งแต่กฎหมายออกมาด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา การกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตัวผู้ประกันตนไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมเต็มที่ในการเข้าไปกำหนด ทำให้ไม่ได้รู้ถึงปัญหาอย่างแท้จริงเพื่อนำมาแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องวิธีการขั้นตอนต่างๆ

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการ สปส. กล่าวว่า ในวันที่ 26 ธันวาคม ที่จะมีการประชุมร่วมกับเครือข่ายผู้ประกันตน จะเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอจากตัวแทนผู้ประกันตนอย่างเต็มที่ หากประเด็นใดสามารถดำเนินการได้ทันทีก็จะทำ แต่ในบางประเด็นที่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย จะต้องขอเวลาในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ประกันตนทุกคนที่ใช้สิทธิในการตรวจสุขภาพประจำปี หากมีการตรวจพบว่าเจ็บป่วยจนต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาหรือเฝ้าระวังโรค ก็จะต้องได้รับการดูแลทันทีตามสิทธิ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลใจ

ด้าน นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) วิภาราม ซึ่งเป็น 1 ในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่า สปส.จะขยายสิทธิตรวจสุขภาพประจำปีตามเกณฑ์อายุให้แก่ผู้ประกันตน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในฐานะโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการเห็นว่าเป็นนโยบายที่ดี เพราะจะช่วยให้ผู้ประกันตนลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของการตรวจสุขภาพประจำปีได้ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าโครงการนี้ สปส.ประกาศในเวลากระชั้นชิดเกินไป เกรงว่าโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมบางแห่งอาจเตรียมการรับมือไม่ทัน แต่ในส่วนของ รพ.วิภารามนั้น กรณีนี้สามารถรับมือได้เพราะให้บริการมานาน มีบุคลากรและเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม และว่า หากผู้ประกันตนรายใดมีการตรวจสุขภาพและพบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ก็ไม่ต้องกังวลเพราะโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมจะให้การดูแล ทั้งในส่วนเฝ้าระวังและรักษาตามสิทธิที่ผู้ประกันตนแต่ละรายพึงได้แน่นอน

 

ที่มา มติชนออนไลน์