เช็กกันยัง!? บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน พ.ย.-ธ.ค. 64 แจกเงินเพิ่มค่าอะไรบ้าง

เช็กกันยัง!? บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน พ.ย.-ธ.ค. 64 แจกเงินเพิ่มค่าอะไรบ้าง
เช็กกันยัง!? บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน พ.ย.-ธ.ค. 64 แจกเงินเพิ่มค่าอะไรบ้าง

เช็กกันยัง!? บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 64 แจกเงินเพิ่มค่าอะไรบ้าง

เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง เผยข่าว นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19

โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ได้ เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้า จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 นั้น ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

– วงเงินซื้อสินค้า 700 หรือ 800 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200 หรือ 300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท)

– ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน

– ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย

ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน

ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน

ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

– เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)

– เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

“สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2564 จากการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการมากขึ้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน-เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว