ส่งท้ายคึกคักชื่นมื่น เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี ทยอยชมงานไม่ขาดสาย

ส่งท้ายคึกคักชื่นมื่น เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี ทยอยชมงานไม่ขาดสาย

ตามที่ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านและเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ในเครือมติชน ผนึกกำลังจัดงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี” ระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2564 โดยวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้าย เครือมติชนยังจัดเต็มกิจกรรมน่าสนใจเช่นเคย ทั้งสัมมนาออนไลน์ “นวัตกรรมทางการเกษตร จากทางเลือกสู่ทางรอด” ถ่ายทอดในรูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง ผ่านเฟซบุ๊กเทคโนโลยีชาวบ้าน เส้นทางเศรษฐี และข่าวสด เชิญนักวิชาการด้านนวัตกรรมและการเกษตรมาให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน พร้อมเปิดเคล็ดลับการลงทุนไม้ด่าง สร้างรายได้งามในยุคนิวนอร์มอล รวมถึงจัดเวิร์กช็อปสร้างอาชีพฝ่าโควิด

สำหรับการจัดงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี” ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ที่มติชนอคาเดมี นั้น มีไฮไลต์เด็ด อย่าง “มหัศจรรย์พรรณไม้” ซึ่งเครือมติชนคัดไม้ด่างหายากและสวยงาม รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท อาทิ มอนสเตอร่าด่างมินต์ 4.9 ล้านบาท ไหมทอง มณีจันทร์ 3 ล้านบาท จินนี่ด่าง 3 ล้านบาท มอนสเตอร่าฉลุ 1.7 ล้านบาท กล้วยด่างแดงจักรพรรดิ 1.5 ล้านบาท ด่างลายพายุตุ๊กแก 1.2 ล้านบาท พลูฉลุด่างยักษ์ 300,000 บาท ฯลฯ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างต่อเนื่อง ต่างถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมสอบถามรายละเอียดของต้นต่างๆ จากเจ้าของสวนที่นำมาจัดแสดงอย่างสนอกสนใจ

คึกคักชื่นมื่น

นอกจากนี้ โซน “GREEN MARKET” ตลาดต้นไม้ ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนด้วยเช่นกัน แต่ละร้านนำไม้ด่างไม้ประดับสวยๆ มาออกร้านพร้อมจำหน่าย โดยบางต้นที่หายากและสวยงามมีราคาหลักแสนบาท เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าชมงานได้ไม่แพ้โซน “มหัศจรรย์พรรณไม้” ทั้งนี้ การจัดงานได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

“ถุงแดง” นวัตกรรมเพิ่มผลผลิตทุเรียน 

สัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “ทุเรียน ราชาผลไม้ ปลูกอย่างไรให้ปัง” มี ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ผศ.ดร.ลำแพน ขวัญพูล อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการผลิต สาขาวิชาพืชสวน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมพูดคุย

ดร.ณัฐภพ และ ผศ.ดร.ลำแพน กล่าวใจความว่า ทุเรียนเป็นราชาผลไม้ที่นอกจากบริโภคในประเทศแล้ว ยังสามารถส่งออกสร้างรายได้สูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมดของไทย โดยเฉพาะในตลาดจีนที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แหล่งปลูกทุเรียนสำคัญของโลกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ประเทศกลุ่มอาเซียน ในอนาคตการส่งออกของทุเรียนของไทยมีโอกาสเผชิญกับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องรักษามาตรฐานและคุณภาพของทุเรียนไทยให้มีความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่แข่งขันกันเรื่องคุณภาพมากขึ้น

เอ็มเทค จึงพัฒนานวัตกรรมถุงห่อทุเรียน “Magik Growth” ที่เปรียบเสมือนชุดเกราะป้องกันราชา ช่วยปกป้องผลทุเรียนในระยะพัฒนาผล จนถึงเก็บเกี่ยวป้องกันศัตรูพืช อาทิ เพลี้ยแป้ง หนอนเจาะผล (หนอนรัง) และราดำ ทดแทนการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ช่วยลดต้นทุนการผลิต และปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น และยังทำให้ผิวทุเรียนสวย มีเปลือกบางลงและมีเนื้อหนาขึ้นด้วย

ปั้นธุรกิจเกษตรออนไลน์ สร้างรายได้เดือนละ 3 ล้านบาท

ช่วงเวิร์กช็อปสร้างอาชีพ นายอรรถกร เอี่ยมเจริญ ที่ผันตัวจากงานประจำมาจับธุรกิจเกษตรออนไลน์ สร้างยอดขายเดือนละ 3 ล้านบาท ในนามเพจ มนทรี สวนป่า ได้มาเป็นวิทยากรในหัวข้อ “How To ขายต้นไม้ออนไลน์ ทำอย่างไรให้ได้เงินล้าน” โดยเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

นายอรรถกร กล่าวว่า การทำสินค้าให้ขายดีบนโลกออนไลน์ มี 3 ปัจจัยเท่านั้น คือ สินค้าต้องมีคุณภาพ ช่องทางการขายต้องมีคุณภาพ และขายให้เห็นภาพ ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยใช้ได้กับทุกสินค้า ไม่จำเป็นต้องเป็นต้นไม้หรือสินค้าเกษตรเท่านั้น พร้อมยกตัวอย่างว่า ตนเองขายต้นไม้ป่าเศรษฐกิจ กลุ่มเป้าหมาย คือ คนสูงวัย คนมีที่ดิน หรือคนที่ต้องการลดภาษีที่ดิน จากนั้นต้องไปดูช่องทางว่าคนเหล่านี้อายุเท่าใด อยู่ในช่องทางไหน พอตอบได้ค่อยวิเคราะห์ลึกลงไปอีกว่าตัวเราควรไปอยู่ช่องทางไหน ส่วนการขายให้เห็นภาพ เช่น ถ้าขายต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอม ควรโพสต์ต้นมะพร้าวที่ออกลูกเต็มต้น เพื่อให้เห็นผลลัพธ์

คอร์สอบรม

เจ้าของเพจชื่อดังบอกอีกว่า เคล็ดลับอีกอย่างที่ทำให้สินค้าเกษตรออนไลน์ในแบบของตนขายดี คือ ปิดการขายให้เร็วที่สุด อย่าให้ลูกค้าคิดเยอะ ต้องพยายามคิดแทนลูกค้าว่าจะถามอะไรต่อ จากนั้นเขียนแคปชั่นหรือคำอธิบายให้ กระชับ เข้าใจง่าย เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องถามอะไรเพิ่ม เช่น แต่ละโพสต์ต้องมีรูป มีคำอธิบาย มีการระบุราคาสินค้า ค่าส่ง และควรมีแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้เลือก ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

“ตลาดต้นไม้ เทรนด์ไปเร็วมาก แต่ต่อให้ไปเร็วอย่างไร ตลาดก็ยังมีอยู่ เพียงแค่เราจับกลุ่มเป้าหมายให้ถูก จับช่องให้ถูกว่าเขาซื้อขายกันที่ไหน ปัจจุบันเฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับกลุ่ม ซึ่งเป็นช่องทางที่คนสนใจเรื่องเดียวกันอยู่ด้วยกัน ที่สำคัญ เป็นช่องทางที่ไม่เสียค่าโฆษณาและมีประสิทธิภาพ ถ้าพาตัวเราเข้าไปอยู่ในกลุ่มนั้น แล้วนำสินค้ามีคุณภาพเข้าไปโพสต์ ซึ่งนักขายหน้าใหม่ทำอย่างนี้เยอะ เมื่อมีคนสนใจก็จะอินบ็อกซ์เข้ามาสอบถามเอง” นายอรรถกร สรุป

เจ้าของไม้ด่างหายากปลื้ม! คนให้ความสนใจต่อเนื่อง 

นายนิรินาทย์ เธียรวรโชค เจ้าของสวน The Lord of the Garden สวนเดอะลอร์ด ซึ่งขึ้นเวทีสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “มหัศจรรย์กล้วยด่างแดงอินโด พันธุ์ไม้สร้างเงินล้าน” ในงานวันนี้ด้วยนั้น กล่าวถึงผลตอบรับจากการนำไม้หายากมาจัดแสดงในโซน “มหัศจรรย์พรรณไม้” ว่า พึงพอใจกว่าที่คิด ตลอดทั้ง 3 วันมีผู้สนใจแวะเวียนมาที่บู๊ธไม่ต่ำกว่าร้อยคน ถือว่าบรรลุเป้าหมายการมาเปิดบู๊ธเพื่อประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่ามีคนที่ปลูกไม้พันธุ์นี้จริงและซื้อขายกันจริง

สำหรับการนำกล้วยด่างแดงอินโดมาจัดแสดงในอาคารมติชนอคาเดมี นายนิรินาทย์ กล่าวว่า ต้องจำลองสภาพแดงตอนกลางวันให้กล้วย เนื่องจากกล้วยแดงอินโดจะชอบแดด จึงเปิดไฟไว้ตลอดทั้งงาน

“ส่วนมากคนที่อยากก้าวเข้ามาในวงการปลูกกล้วยหรือคนที่อยากเริ่มปลูกไม้ด่าง จะมาสอบถามเรื่องการตลาดว่าควรเริ่มต้นอย่างไร สร้างรายได้ได้จริงไหม ซึ่งรู้สึกดีที่พอจะช่วยให้คำแนะนำกับผู้สนใจได้บ้าง และได้สร้างแรงบันดาลใจให้เขา นอกจากนี้ ยังมีคนที่อยู่ไกล มาร่วมงานไม่ได้ ก็ทักมาสอบถามเยอะในโซเชียลมีเดีย และบอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปดูที่สวน” เจ้าของสวนเดอะลอร์ด กล่าว

นายจิรวุฒิ พัฒนพงศ์พิบูล เจ้าของ บริษัท วนจิรา จำกัด และเจ้าของสวน Avatar Garden

ด้านนายจิรวุฒิ พัฒนพงศ์พิบูล เจ้าของ บริษัท วนจิรา จำกัด และเจ้าของสวน Avatar Garden ซึ่งขึ้นเวทีสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “ไขความลับ ไม้ด่างสร้างเงิน” กล่าวถึงการนำไม้หายากมาจัดแสดงว่า งานนี้นำพลูด่าง หรือ “มอนสเตอร่า” พันธุ์ต่างๆ มาจัดแสดงหลายต้น โดยใช้แสงไฟ LCD Full Spectrum ที่ช่วยให้พืชสามารถสังเคราะห์แสงได้ และใช้อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ ตั้งค่าการเปิดปิดเองอัตโนมัติ ควบคุมความแรงของไฟไม่ให้ใบไหม้ ส่งผลให้ต้นไม้ที่นำมาโชว์ไม่โทรม พร้อมเผยว่าประทับใจผลตอบรับจากการนำต้นไม้มาจัดแสดงในงานนี้ มีลูกค้าของร้านตามมาดูถึงที่นี่ และติดต่อขอซื้อต้นไม้อีกด้วย

“ไม้ด่างสามารถเป็นธุรกิจได้จริง ต้องขอขอบคุณเครือมติชนที่นำเสนอเรื่องราวการลงทุนไม้ด่าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจ หากใครอยากลองทำธุรกิจไม้ด่าง ลองติดตามข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง สำรวจตลาด และลองดูตามกลุ่มซื้อขายต้นไม้ต่างๆ ในเฟซบุ๊ก เพื่อให้รู้ว่าการซื้อขายทำอย่างไร จะได้เป็นการรับข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านยิ่งขึ้น” เจ้าของ Avatar Garden เผย

“GREEN MARKET” คึกคัก 

อีกโซนที่ได้รับความสนใจในงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี” คือ “GREEN MARKET” ตลาดต้นไม้ ที่จัดเต็มร้านไม้ประดับและร้านสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ ต้นไม้จาก The Lord of the Garden สวนเดอะลอร์ด ร้าน Avatar Garden ร้าน ๑,๐๐๐ พฤกษาฟาร์ม จ.กาญจนบุรี ร้านบ้านสวนนายช่าง@พระนคร กลุ่มขนุนทะวายปีเดียว T8 ประเทศไทย จ.จันทบุรี ศูนย์เกษตรยั่งยืนบ้านสวาสดิ์ ตามศาสตร์พระราชา จ.ยโสธร ร้านกระท่อม by ทิดโส กรุงเทพฯ ร้านผลไม้หวานเจี๊ยบ จ.พิจิตร กลุ่มเอาใหญ่ จ.นครราชสีมา สวนสมบัติกล้วยด่าง จ.นนทบุรี นวลทองการ์เด้น จ.นนทบุรี เป็นต้น โดยประชาชนทยอยมาเลือกซื้อเลือกหาต้นไม้สายพันธุ์ที่ชอบกันอย่างต่อเนื่อง

ติดไม้ติดมือกลับบ้าน

เสียงตอบรับชื่นมื่น

นางมนัสนันท์ วรรณา วิศวกรโยธา และเจ้าของร้านบ้านสวนนายช่าง@พระนคร เล่าถึงบรรยากาศการนำไม้ดอกไม้ประดับมาจัดแสดงและจำหน่ายในโซน “GREEN MARKET” ว่าเป็นไปอย่างน่าพอใจ โดยต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของร้านคือ เลม่อนไลม์ เก็คโกะ หรือ “Colocasia Lemon Lime Gecko” เนื่องจากเป็นไม้พันธุ์สวย มีเอกลักษณ์ตรงที่มีสีเขียวอ่อน มีจุดสีเขียวอยู่โดยรอบใบ มีตาตรงกลางใบเหมือนตาตุ๊กแก ก้านหรือต้นมีลายเข้มออกสีม่วง และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเลี้ยงบอน และหากเลี้ยงภายใน 3 เดือนจะโตจนมีขนาดเท่ากับกระด้ง

นอกจากเปิดร้านจำหน่ายแล้ว นางมนัสนันท์ ยังได้เดินชมบรรยากาศภายในงานและพูดคุยแลกเปลี่ยนกับร้านต่างๆ ที่มาจำหน่ายต้นไม้ในงานนี้ พร้อมซื้อต้นบอนทองหรือ “บอนกระดาษก้านทอง”จากร้านบ้านสวนระลึก จุดเด่นคือมีจุดเขียวเข้มที่หน้าใบ ก้านมีสีเขียวอ่อน และจุดปลายของก้านจะจรดอยู่ที่ปลายจมูกของใบพอดี

“งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบไม้ด่างและไม้ประดับสวยๆ ได้มาพบปะพูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ ซึ่งนอกจากจะนำต้นไม้มาจำหน่าย ก็ยังได้อุดหนุนเพื่อนๆ ร้านอื่นด้วย เรียกว่าเป็นทั้งคนซื้อและคนขายในงานเดียวกัน” นางมนัสนันท์ กล่าว

ด้าน พญ.บุณยาพร จันทรจำนง จักษุแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ที่เดินทางมาร่วมงาน กล่าวว่า เห็นข่าวจากเฟซบุ๊กข่าวสดในเครือมติชน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ด้วยความสนใจและชื่นชอบต้นไม้เป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว จึงเดินทางมาพร้อมครอบครัว เพื่อชมไม้หายากและเลือกซื้อไม้สวยๆ กลับบ้าน อย่างต้นบอน Colocasia Black Beauty หรือ “แบล็คบิวตี้” ที่ซื้อจากร้านบ้านสวนนายช่าง@พระนคร เพราะสะดุดตากับลวดลายสีดำบนหน้าใบที่สวยดูดี ต้นเล็กๆ น่ารัก และราคาเหมาะสม จึงซื้อเพื่อนำไปตกแต่งห้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกล้วยไม้และไม้ด่างอื่นๆ อีกหลายต้น

ส่วนนางอมรรัตน์ ชื่นมาลัย ข้าราชการจากกรมส่งเสริมการเกษตร เห็นข่าวการจัดงานนี้จากเพจเทคโนโลยีชาวบ้าน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ระบุว่าวันนี้จัดงานเป็นวันสุดท้าย จึงเดินทางมาชมงานพร้อมครอบครัว เมื่อเห็นไม้ด่างหายากอย่างกล้วยด่างแดงอินโด ที่มีมูลค่าหลายล้านบาทแล้วก็ทึ่งในความสวยงามของลวดลายและสีสัน

“ตั้งใจมาดูไม้ด่างหายากที่ราคารวมกันแล้วเป็นสิบๆ ล้านบาทเป็นการเฉพาะ แต่เมื่อเดินเข้าไปโซนตลาดต้นไม้ ได้ลองชิมกล้วยน้ำว้ายักษ์จากสวนสมบัติแล้วอร่อย จึงซื้อกลับไป 2 ต้น คาดว่าจะเอาไปปลูกในฟาร์มปศุสัตว์ของครอบครัว แล้วก็ซื้อผักและผลไม้อบแห้งจากซุ้มของชมรมขนุน T8 กลับไปด้วย” นางอมรรัตน์ เผย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี” ระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม ทั้งการจัดสัมมนาออนไลน์ และการจัดกิจกรรมตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ที่มติชนอคาเดมี ได้รับกระแสตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้นำต้นไม้มาจัดแสดง ร้านต้นไม้ต่างๆ และผู้เข้าชมงานที่รวมจำนวนทั้ง 3 วันแล้วมีหลักพันคน โดยภายในงานยังมีรถ PokPok (ป๊อกป๊อก) ซึ่งเป็นรถฟู้ดดีลิเวอรี่ จากนายนัฐพงศ์ จารวิจิต ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น PokPok รถขายอาหารระดับมิชลินสตาร์ ธุรกิจมาแรงในฐานะสตาร์ตอัพของคนรุ่นใหม่ มาจำหน่ายอาหารด้วย ซึ่งกิจกรรมทั้งหมด มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด