ออกเจแล้ว แนะวิธีปรับสภาพร่างกาย เน้นกิน ปลา ไข่ ผักและผลไม้

ออกเจแล้ว แนะวิธีปรับสภาพร่างกาย เน้นกิน ปลา ไข่ ผักและผลไม้
ออกเจแล้ว แนะวิธีปรับสภาพร่างกาย เน้นกิน ปลา ไข่ ผักและผลไม้

ออกเจแล้ว แนะวิธีปรับสภาพร่างกาย เน้นกิน ปลา ไข่ ผักและผลไม้

วันที่ 15 ต.ค. 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงกินเจติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน ส่งผลให้ร่างกายมีการปรับระบบการย่อยอาหารจากที่ย่อยเนื้อสัตว์มาเป็นพืชผักแทน

ดังนั้น เมื่อร่างกายต้องกลับมากินอาหารตามปกติ ผู้บริโภคจึงปรับสภาพร่างกายด้วยการกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ไข่ นม ผักและผลไม้ กินให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เลือกอาหารรสไม่จัด ไม่หวาน มัน เค็ม เผ็ด เปรี้ยวมากจนเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์สีแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เพราะทำให้ย่อยยากในช่วงแรก จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยได้

สำหรับการดื่มนม แนะนำให้เริ่มดื่มนมวัวครั้งละน้อยๆ ประมาณครึ่งแก้ว และค่อยเพิ่มเป็น ครั้งละ 1 แก้วได้ ในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือดื่มนมในช่วงสายหรือช่วงบ่าย ในมื้ออาหารว่างหรือเลือกผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการย่อยน้ำตาลแลกโตสบางส่วนโดยจุลินทรีย์ เช่น โยเกิร์ต หรืออาจดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนไปก่อน แต่หลังจากที่ร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารกลับสู่ภาวะเดิม ก็สามารถกินอาหารและดื่มนมได้ตามปกติ

“ทั้งนี้ หลังจากออกเจ ร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารได้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่เหมาะสม โดยกินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม ให้ครบ 3 มื้อ กินอาหารกลุ่มข้าวและแป้งแต่พอดี เลือกกินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ หรือธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา กินไข่ ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เพิ่มการกินผักให้มาก และกินผลไม้รสไม่หวานจัดควบคู่กับอาหารหลักทุกมื้อ เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็น เช่น เมนูไข่ยัดไส้ ปลานึ่งขิง แกงจืดเต้าหู้ไข่ใบตำลึง รวมทั้ง ควรดื่มนมรสจืดเป็นประจำ และดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกินไป และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว