เพนกวินอีทชาบู แนะ SMEs ต้องรู้จัก วิชาตัวเบา กลยุทธ์สำคัญ ช่วยรอดวิกฤต

เพนกวินอีทชาบู แนะ SMEs ต้องรู้จัก วิชาตัวเบา กลยุทธ์สำคัญ ช่วยรอดวิกฤต
เพนกวินอีทชาบู แนะ SMEs ต้องรู้จัก วิชาตัวเบา กลยุทธ์สำคัญ ช่วยรอดวิกฤต

เพนกวินอีทชาบู แนะ SMEs ต้องรู้จัก วิชาตัวเบา กลยุทธ์สำคัญ ช่วยรอดวิกฤต

หากเอ่ยถึง SMEs นักปรับตัวยอดเยี่ยม ตำแหน่งนี้เป็นของใครไปไม่ได้ นอกจาก คุณต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน “Penguin Eat Shabu” 

โดยหลายวันก่อน คุณต่อได้ร่วมถ่ายทอดกลยุทธ์ How to รอดของ SME ยุคใหม่” ในงานสัมมนาออนไลน์ “Think for Growth : SME ยุควิกฤติโควิด-19…ทำอย่างไรให้รอด” ไว้อย่างน่าสนใจว่า 

คุณต่อธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน “Penguin Eat Shabu” 
คุณต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน “Penguin Eat Shabu”

สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้จัก เพื่อให้รอดภายใต้สถานการณ์วิกฤต คือ “วิชาตัวเบา” หรือการลีน (Lean) เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยเริ่มจากหาจุดคุ้มทุนที่รายได้เท่ากับรายจ่ายต่อเดือน และบริหารกระแสเงินสดให้ดี เช่น ทำบัญชีตรวจสอบกระแสเงินสดเป็นประจำ ผ่อนผันกับซัพพลายเออร์ สร้างรายได้หลายช่องทาง และหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม

“การลดค่าใช้จ่ายแบบฉับพลัน อย่างเช่น การลดเงินเดือนหรือจำนวนคน อาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่มั่นคง ส่งผลต่อความแข็งแรงขององค์กรได้ ผู้ประกอบการจึงต้องเปลี่ยนสิ่งที่ไม่เกิดมูลค่า หรือ Waste ให้เป็นมูลค่า หรือ Value โดยอิงหลัก 7 Waste เพื่อปรับกระบวนการการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น แล้วนำเวลาที่เหลือไปสร้างรายได้ใหม่ และก่อให้เกิดคุณค่าแก่ลูกค้าโดยตรง” คุณต่อ ระบุ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรประเมินสถานการณ์จากกระแสเงินสดด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ หากมีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการใช้จ่ายได้ 3 เดือน ควรหยุดดำเนินธุรกิจเพื่อรักษากระแสเงินสดที่เหลือ แล้วหาช่องทางเตรียมตัวทำธุรกิจใหม่ แต่หากยังมีกระแสเงินสดเพียงพอถึง 6 เดือน ควรเตรียมแผนสำรอง รองรับความไม่แน่นอน

เช่น การปิดร้านจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะยิ่งทำให้สภาพคล่องลดลง ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่ยังสร้างกำไรได้และมีกระแสเงินสดเพียงพออย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ยังต้องปรับกลยุทธ์ต่อเนื่อง ขยายช่องทางขายใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงเตรียมแผนสำรองในการทำธุรกิจใหม่ล่วงหน้า

จากประสบการณ์ดูแลธุรกิจเพนกวินอีทชาบู ได้ยึด 6 หลักสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยังยืนหยัดได้แม้เจอวิกฤต ได้แก่

1. อย่ามัวขายในสิ่งที่มีให้ขาย แต่ขายในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น จัดแคมเปญขายชาบูแถมหม้อ สามารถรับประทานชาบูที่บ้านได้

2. อยากเป็นที่จดจำต้องอย่าทำเหมือนคนอื่น

3. อยากให้คนไม่ลืม ต้องตะโกนตลอดเวลา มีวินัยในการลงคอนเทนต์เป็นประจำ เพิ่มโอกาสในการรับรู้และซื้อสินค้า

4. อย่าขายท่ามาตรฐาน ให้ขายแบบมีชั้นเชิง เล่าเรื่องให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

5. ปรับตัวไม่พอ ต้องปรับให้เร็วกว่าคนอื่น

6. ทำธุรกิจอย่าคิดรอดไปคนเดียว ซึ่งร้านได้ทำ Collaboration Campaign อาทิ ร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ต จัดโปรโมชั่นแถมแพ็กเกจที่พัก ตลอดจนรวมกลุ่มกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และจัดงานแฟร์สร้างรายได้ในช่วงล็อกดาวน์