กัญชา ต้องไปต่อ กรมวิทย์ เสนอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย

กัญชา ต้องไปต่อ กรมวิทย์ เสนอยกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย

ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ครั้งที่ 12 ว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ของกรมและเขตสุขภาพที่เกี่ยวข้องตลอดปีงบประมาณ 2564 รวมถึงการเติมช่องว่างที่สำคัญในส่วนต้นทาง กลางทาง และ ปลายทาง ให้กัญชาสามารถถูกเติมเต็มให้เป็นพืชเศรษฐกิจได้อย่างสมบูรณ์ คือ การพัฒนากระบวนการสกัดและวิเคราะห์เทอร์ปีน โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เสนอให้กัญชาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย และการนำกัญชา มาบูรณาการเข้ากับการท่องเที่ยวในเขตสุขภาพที่ 8 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการ

ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวต่อว่า การพัฒนาฐานข้อมูลกัญชา-กัญชง ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ตั้งแต่นำเข้า ปลูก ผลิต ใช้ และขาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการทำธุรกิจกัญชา-กัญชง ให้ผู้ประกอบการมาตรวจสอบข้อมูล ดูโอกาสทางการตลาด และยังรู้ว่าถ้าจะทำผลิตภัณฑ์จะไปหากัญชาได้จากไหน ถ้าจะปลูก ปลูกสายพันธุ์ไหนดี ก็อยากจะเชิญชวนผู้ประกอบการลองมาใช้ฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และฟีดแบ็กกลับมาให้ว่าต้องแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ใช้งานได้ประโยชน์สูงสุด

ด้าน ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิจัย ผู้ได้รับทุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า จากงานวิจัย  เราเห็นความต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาในการรักษาโรคของผู้ป่วยหลายกลุ่มโรคที่ต้องการใช้กัญชาในการรักษา และส่วนใหญ่ไปใช้ยากัญชาใต้ดิน แต่จากนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ทำให้เห็นแนวโน้มของผู้ป่วยที่มีการใช้ยากัญชาที่ได้รับการรับรอง และเข้าสู่ระบบการรักษามากยิ่งขึ้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ประชาชนไปซื้อยากัญชาใต้ดิน มาใช้เอง

ส่วนการเดินหน้าพัฒนานโยบาย ทั้งในด้านการส่งเสริมการปลูกและสกัดกัญชาได้ นับเป็นการทดแทนยาที่ต้องนำเข้าได้ส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำระบบการกำกับดูแลอย่างเข้มแข็ง มีการประเมินผลทั้งทางด้านบวกและผลกระทบต่อสังคม และพยายามปิดจุดอ่อนด้านลบเพื่อช่วยเติมเต็มด้านบวก คือ ประโยชน์ที่เกิดกับคนไข้กับสังคมให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของงานวิจัย จะเร่งทำการวิจัยคลินิกกับผู้ป่วยมะเร็งที่เป็นปัญหาสุขภาพของประเทศ และจะมีการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยได้วางกรอบให้ครอบคลุมในทุกมิติ