ลิซ่า ดันยอดขาย เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน พุ่งวันละ 1 ล้าน คาดเงินสะพัด 40 ล้าน 

ลิซ่า ดันยอดขาย เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน พุ่งวันละ 1 ล้าน คาดเงินสะพัด 40 ล้าน 
ลิซ่า ดันยอดขาย เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน พุ่งวันละ 1 ล้าน คาดเงินสะพัด 40 ล้าน 

ลิซ่า ดันยอดขาย เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน พุ่งวันละ 1 ล้าน คาดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 40 ล้าน 

วันที่ 21 ก.ย. 64 ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า บรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นจุดที่จำหน่ายลูกชิ้นยืนกิน สัญลักษณ์ของชาวบุรีรัมย์ ซึ่งมีมานานกว่า 40 ปี ยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง หลังจากลิซ่า Blackpink ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่บุรีรัมย์ และเป็นคนเปิดประเด็นลูกชิ้นยืนกินขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อ ว่าอยากกินลูกชิ้นน้ำจิ้มพริกเผาครั้งเป็นเด็ก กระทั่งมีการย่นเวลาการจัดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินครั้งที่ 4 ขึ้นในวันที่ 17-23 ก.ย. นี้ โดยแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดทุกภาคของประเทศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ภาคเอกชนหลายบริษัทยังมาให้การสนับสนุนงานลูกชิ้นยืนกินให้สมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากผู้จัดงานไม่อนุญาตให้ยืนกินภายในงาน จะต้องซื้อกลับอย่างเดียว ตัวแทนจำหน่าย ถ้วยเฟสท์ ได้นำผลิตภัณฑ์ มาแจกให้แม่ค้าลูกชิ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการยืนกิน ด้วยการแบ่งใส่ถ้วย ไปยืนกินอยู่นอกสถานที่จัดงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย

น.ส.รัตภชา ธีรภัทรกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้จะสิ้นสุดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินแล้ว แต่นักท่องเที่ยว ยังเดินทางมาชมและซื้อลูกชิ้นกลับไปบ้านเป็นจำนวนมาก จากแม่ค้าเคยขายได้ในช่วงโควิด-19 ระบาด เพียง 30-40 กก.

ตั้งแต่กระแสลิซ่าเข้ามามียอดขายแต่ละรายทะลุ 100,000 บาทต่อวัน เฉพาะลานลูกชิ้นยืนกิน มียอดขายวันละกว่า 1 ล้านบาท ไม่รวมแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่อยู่ตัวเทศบาลเมือง และต่างอำเภออีกกว่า 200-300 เจ้า คาดว่าจะมีเงินสะพัดเฉพาะงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินปีนี้ ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท

ด้านนายบดินทร์ เรืองสุขศรีวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากมีปรากฏการณ์กระแสของลิซ่าเกิดขึ้น ตอนนี้ออร์เดอร์ยอดขายเรียกได้ว่าถล่มทลาย ขายกันไม่ทัน สิ่งที่เราได้คุยกับสภาอุตสาหกรรม, สมาคม, การท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัด ถึงการรักษาคุณภาพ หรือพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นอย่างไร ใครมีความสามารถทำแฟรนไชส์ ใครมีความสามารถที่ขยายไปขายที่กรุงเทพฯ เราก็จะสนับสนุน

รวมถึงการขยายการปักหมุดสัญลักษณ์ของลูกชิ้นยืนกิน ให้ไปอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย หรือของโลก ถ้าเป็นไปได้ โดยจะมีการไปให้ความรู้ด้านการค้าและการตลาดต่อไป และเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยว ตั้งแต่เราเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

ที่มา ข่าวสดออนไลน์