เรียนรู้ความสำเร็จ ออฟฟิศเมท ยอดขายจาก 0-1,000 ล้าน ในเวลา 15 ปี เพราะ…

เรียนรู้ความสำเร็จ ออฟฟิศเมท ยอดขายจาก 0-1,000 ล้าน ในเวลา 15 ปี เพราะ….

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ B2S และ OfficeMate อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ปัจจุบันเป็น รองหัวหน้าพรรคกล้า ให้แนวคิดกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีอยู่เกือบ 3 ล้านรายทั่วประเทศ ว่า แม้ว่าวันนี้จะล้มหายตายจากไปจากวิกฤตโควิด-19 แต่เชื่อว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งธุรกิจ ออฟฟิศเมท ในความดูแลของเขา เติบโตจากยอดขาย 0-1,000 ล้านบาทได้ในเวลา 15 ปี เพราะการใช้ไอที เข้าช่วยในการวางแผนในทุกระบบการทำงาน

“ออฟฟิศเมท เป็นบริษัทค้าปลีกรายแรกๆ ของประเทศที่ใช้ระบบไอทีซอฟต์แวร์เข้ามาช่วย ทั้งระบบหน้าบ้าน หลังบ้าน ตั้งแต่การออกแบบดีไซน์เว็บไซต์ ไปจนถึงระบบบัญชี สต๊อกสินค้า พนักงานทุกคนมีคอมพิวเตอร์ใช้ ตามนโยบาย 1 คน 1 คอมพิวเตอร์ เพราะต้องเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เหมือนมีบ้านหลายๆ หลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ทุกคนต้องใช้ไอทีในการบริหารแต่ละแท่งให้แข็งแรง” คุณวรวุฒิ กล่าว

และว่า จากประสบการณ์พบว่า เอสเอ็มอี หน้าใหม่ แม้จะเชื่อว่าระบบไอทีเข้ามาช่วยได้จริง แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หลักคิดง่ายๆ ที่อยากแบ่งปันคือ ในการวางแผนธุรกิจ ต้องหาที่ปรึกษาเพื่อเรียนรู้ โดยเริ่มจากการอ่าน หนังสือ บทความ ทำการบ้าน หากจำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษาที่เป็นตัวบุคคลก็ต้องทำ จะได้พูดคุยกันรู้เรื่อง และใช้เวลาสั้นลงในการทำความเข้าใจ

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ B2S และ OfficeMate

แต่ทั้งนี้ ต้องรู้ก่อนว่าเราจะใช้ไอทีเพื่ออะไร ทำอะไรได้บ้างและมีประโยชน์แค่ไหน ถึงค่อยตัดสินใจที่จะใช้และลงทุน ซึ่งในปัจจุบันระบบซอฟต์แวร์สำเร็จรูปต่างๆ ถูกลงมาก ไม่ได้หายาก หรือต้องออกแบบขึ้นมาใหม่ เหมือนสมัยที่ออฟฟิศเมทในยุคแรกๆ ที่ใช้ โดยยึด 3 หลัก คือ 1. เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นเสาเข็มที่สำคัญ 2. กระบวนการทำงานโดยใช้ไอที ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญที่สุด และ 3. ซึ่งถือเป็นการขุดทองที่หลายคนไปไม่ค่อยถึงคือเรื่องของ ข้อมูล กล่าวคือ ถ้าเทคโนโลยีดี กระบวนการดี ข้อมูลก็จะดีตามไปด้วย สำหรับไอทีของออฟฟิศเมทเมื่อ 20 ปีก่อน คือ การทำบิ๊กดาต้า ในปัจจุบันนี้

ต่อข้อถาม ในฐานะเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่ใช่คนไอที มีวิธีการกำกับดูงานด้านนี้อย่างไร คุณวรวุฒิ กล่าวว่า โดยส่วนตัวยึดหลักการทำงาน แบบพูดคุยแลกเปลี่ยน ที่ออฟฟิศเมทไม่เคยเรียกตนว่า คุณวรวุฒิ ท่านประธาน บอส หรือเจ้านายเลย ทุกคนเรียกพี่หมู ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ดูแลกันแบบพี่น้อง คุยกันแบบแลกเปลี่ยน จะลดช่องว่างระหว่างเจ้านายลูกน้องลงไปได้

บางครั้งเราอาจพูดเพ้อเจ้อแบบคนไม่รู้เรื่องไอที แต่มี Logic ว่าถ้าทำได้มันจะเติบโตไปได้อีก ซึ่งทางไอที อาจเบรกว่าด้วยเทคโนโลยียังไปไม่ถึง ก็เรียนรู้ไปด้วยกัน ที่สำคัญ เวลาไปประชุมข้างนอก จะพาฝ่ายไอทีไปด้วยเพื่อให้เขามองเห็นโลกธุรกิจในภาพจริง หลายบริษัทอาจมองว่า ต้นทุนไอทีแพง ไม่ควรเอาเวลาไปประชุม แต่ควรเอาเวลาให้เขาคุมงาน คุมยอดขาย แต่คิดต่างเพราะคิดว่า ไอทีคือหัวใจของบริษัทออฟฟิศเมท

“Direction สำคัญกว่า Speed ถ้าหัวหน้าไอทีไม่รู้ Direction แต่ไป Speed ผิด มันก็ล้มเหลว เพราะฉะนั้น ต้องรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร และทำไปแล้วมีผลดีอย่างไร ถ้าชัดเจน มันจะ Quick win ได้ ธรรมชาติของคนต้องการชนะ เมื่อชนะแล้วเขาจะมีความสุข ถ้าแพ้ก็จะฝ่อ แต่การชนะต้องก่อประโยชน์กับองค์กรด้วย ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความไม่เคยแพ้นะ ออฟฟิศเมทก็ผิดพลาดมาเยอะ แต่ไม่ถึงกับเจ็บหนัก เรา Fail Fast ได้ แต่ต้องไม่ Fail Heart เช่น ตั้งเป้าไว้ 10 แต่ไปได้แค่ 7 เราเรียนรู้และได้เห็นอะไรมากขึ้น จะค่อยๆ ปรับ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ ทุกคนทำได้ ถ้าเราทุ่มเทเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากพอ” คุณวรวุฒิ กล่าว