เผยแพร่ |
---|
กรุงศรี ฟินโนเวต เปิดกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกในไทย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”
วันที่ 26 ส.ค. 2564 นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า พัฒนาการของสตาร์ตอัพในประเทศไทยเริ่มต้นมาตั้งแต่ประมาณปี 2558 โดย กรุงศรี ฟินโนเวต ได้คลุกคลีกับการเติบโตของสตาร์ตอัพมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม 1.0 หลายองค์กรที่ต้องการเดินหน้าองค์กรเข้าสู่นวัตกรรมจะจัดทำโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ เพื่อให้ได้เริ่มสัมผัสการทำงานแบบสตาร์ตอัพ จากนั้นพัฒนาไปสู่ยุค 2.0 ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ตอัพและการร่วมเป็นพันธมิตรกับสตาร์ตอัพในการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดธุรกิจต่างๆ

กรุงศรี ฟินโนเวต ทำให้กรุงศรีกลายเป็นธนาคารที่ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพกว่า 63 บริษัท กว่า 106 โปรเจ็กต์ และส่งเสริมการทำงานด้านดิจิทัลของกรุงศรีและบริษัทในเครือถึง 37 หน่วยธุรกิจ วันนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต กำลังเดินหน้าสู่ยุค 3.0 ที่พร้อมจะนำความเชี่ยวชาญของเราต่อยอดไปสู่การลงทุนในระดับกองทุน เพื่อที่จะสร้างโอกาสการเติบโตให้กับสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ ในขณะเดียวกัน ก็สร้างผลตอบแทนและการเติบโตทางธุรกิจให้กับนักลงทุนด้วย
กรุงศรี ฟินโนเวต จึงจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในสตาร์ตอัพขึ้น ถือเป็นกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกของไทย ภายใต้ชื่อ “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย และองค์กรที่สนใจลงทุนในสตาร์ตอัพแต่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพได้เข้าลงทุน โดยมีกรุงศรี ฟินโนเวต ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในสตาร์ตอัพเป็นผู้ดูแล
นอกจากนั้น นักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในกองทุนนี้ ยังมีโอกาสจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจของสตาร์ตอัพที่อยู่ภายใต้กองทุนนี้ เพื่อที่จะต่อยอดการทำธุรกิจนำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมร่วมกัน
โดย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” เป็นกองทุนขนาด 3,000 ล้านบาท มุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ตอัพทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดับซีรีส์ A ขึ้นไป เน้นลงทุนในกลุ่มฟินเทค อีคอมเมิร์ซ
ออโตโมทีฟ (ยานยนต์) และกลุ่มสตาร์ตอัพที่อาจฟื้นตัวเร็วหรือได้รับโอกาสทางธุรกิจในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หรือที่เรียกว่า Post-Pandemic Boom Startup
ตั้งแต่ปี 2558 สตาร์ตอัพไทยแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โดยพบการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพเติบโตกว่า 3 เท่าจากปกติ ประกอบกับในปี 2564 ประเทศไทยมียูนิคอร์นรายแรกอย่าง Flash Express ที่สะท้อนภาพความสำเร็จ และแนวโน้มว่าสตาร์ตอัพหลายธุรกิจของไทย มีศักยภาพที่จะขยายกิจการจากในประเทศไปยังภูมิภาคได้ ขณะเดียวกัน สตาร์ตอัพในภูมิภาคอาเซียนก็เติบโตแบบเท่าทวีคูณ และกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
อีกทั้งปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับสตาร์ตอัพในภูมิภาคนี้ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นอุปสรรคของสตาร์ตอัพยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่จะขยายธุรกิจเข้ามาในภูมิภาคนี้ จึงเป็นโอกาสให้สตาร์ตอัพไทยและอาเซียนได้เติบโตอย่างเต็มที่
“จากประสบการณ์การลงทุนมานานกว่า 4 ปี ในกว่า 15 กิจการสตาร์ตอัพ รวมเงินลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาทของกรุงศรี ฟินโนเวต ประกอบกับความแข็งแกร่งของกรุงศรีและมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก MUFG ที่มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะสามารถสร้างความสำเร็จและการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับกองทุน “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” จึงขอเชิญชวนนักลงทุนสถาบัน หรือองค์กรธุรกิจ นักลงทุนรายย่อย ประเภทกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่สนใจลงทุน ก้าวเข้าไปในโลกของดิจิทัลและเติบโตไปด้วยกันกับเรา โดยกรุงศรี ฟินโนเวต จะเริ่มเดินสายนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Roadshow) ในเดือนสิงหาคม เป็นต้นไป” นายแซม กล่าวทิ้งท้าย
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจการลงทุนใน “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” สามารถติดต่อได้ที่ [email protected] หรือส่ง inbox มาได้ที่ Facebook : Krungsri Finnovate