โชห่วย 4 แสนร้านค้า แข่งค้าปลีกสมัยใหม่ไม่ไหว เร่งถ่ายทอดความรู้เพื่อได้ไปต่อ

โชห่วย 4 แสนร้านค้า แข่งค้าปลีกสมัยใหม่ไม่ไหว เร่งถ่ายทอดความรู้เพื่อได้ไปต่อ

จากการสัมมนา Move On ฝ่าวิกฤตโควิด เศรษฐกิจต้องเดินหน้า จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์              ช่วง Exclusive Talk หัวข้อ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน กับ คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก ถูกดี มีมาตรฐาน โดยมี คุณสรกล อดุลยานนท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง เจ้าของเพจหนุ่มเมืองจันท์ เป็นผู้ดำเนินการสนทนา

คุณเสถียร กล่าวตอนหนึ่งว่า ทำเครื่องดื่มคาราบาวแดง มาเกือบ 20 ปี ดิวกับโชห่วยซึ่งมากกว่า 4 แสนร้านค้า ภาพรวมๆ คือว่า ร้านเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ เลยมีความคิดว่าถ้าปล่อยให้ร้านโชห่วยซึ่งเป็นธุรกิจฐานรากของประเทศเรา อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ธุรกิจคงมีปัญหาในภาพรวมทั้งประเทศ

เลยคิดว่าจะทำยังไงให้ ร้านโชห่วย สามารถที่จะแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ให้ได้ สิ่งแรกเลย คือ ต้องเอาความรู้ในการบริหารจัดการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ไปให้กับร้านโชห่วยเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องจัดการบริหารร้าน ทำอย่างไรให้ร้านมีดี มีมาตรฐาน มีความสะอาด ความสว่าง ความสะดวก ต่อผู้ที่เข้าไปใช้บริการ รวมทั้งความรู้เรื่องการจัดการสินค้า เรียงอย่างไร อันดับก่อนหลังอย่างไร และคิดว่าถ้าโชห่วยได้เรียนรู้องค์ความรู้เหล่านี้ น่าจะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้

นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่เห็น คือ ร้านโชห่วยทั่วไป มักมีสินค้าน้อย โอกาสที่จะขายก็น้อยตาม ดังนั้น ถ้านำสินค้าจำนวนมากเข้าไปขายให้กับเขา จะทำให้มีโอกาสขายได้มากขึ้น นอกจากนั้น ต้องมีเทคโนโลยี ในการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ สินค้าตัวไหน ขายได้ ขายไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ทางบริษัทเข้าไปช่วย

คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก ถูกดี มีมาตรฐาน

“ปัญหาสำคัญของโชห่วย อย่างหนึ่ง คือว่าต้องมีข้อมูลในการปรับเปลี่ยน ให้ร้านมีสินค้าที่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าไม่มีระบบบริหารจัดการจะเกิดปัญหา และที่สำคัญคือว่า ในโลกยุคสมัยใหม่ การสร้างแบรนด์ เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภคจดจำว่าเข้ามาที่ร้านนี้ แล้วจะได้รับการบริการอะไร มีสินค้าอะไรให้เลือกหา สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องทำให้เกิดขึ้น ร้านโชห่วย ถึงจะสามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้” คุณเสถียร กล่าว

เมื่อถามถึงที่มาชื่อแบรนด์ ถูกดี มีมาตรฐาน คุณเสถียร บอกว่า

“เวลาไปชวนร้านโชห่วยมา บอกว่า เมื่อมาร่วมกับเรา ผมจะหาสินค้าที่ถูก คือ ราคาถูก และถูกกับความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา และที่สำคัญ ต้องเป็นสินค้าดี มีมาตรฐาน ซึ่งส่วนนี้เราให้ความสำคัญ มีมาตรฐาน เพื่อย้ำเตือนโชห่วยที่มาร่วมกับเราว่า การจะทำให้ร้านเจริญรุ่งเรืองไปได้ ต้องมีการรักษามาตรฐาน เพื่อที่จะทำให้สามารถสร้างแบรนด์ร่วมกันและแข่งขันได้ในระยะยาว”

หากมีโชห่วย อยากเข้าร่วม ต้องทำยังไง คุณเสถียร บอก ถูกดี มีมาตรฐาน เป็น โลว์คอสต์ คอนวีเนี่ยนสโตร์ ไม่ใช่แฟรนไชส์ จึงไม่มีการเก็บค่าแฟรนไชส์ โดยทางบริษัทให้ความช่วยเหลือ โดยนำสินค้า ชั้นวาง อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะเป็นมาตรฐานสำหรับที่จะแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ ตู้เย็น ตู้แช่ ตู้เก็บเงินที่เหมือนสมองกล พริ้นเตอร์ กล้องวงจรปิด หรือแม้กระทั่งป้ายร้าน ไปติดตั้งให้ ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน เจ้าของร้าน มีหน้าที่ตกแต่งให้ได้มาตรฐาน ฝ้า ผนัง ทาสีขาว และวางมัดจำ 2 แสนบาท เป็นหลักประกันความตั้งใจในการทำงานร่วมกับเรา แต่ถ้าบางคนตั้งใจ แต่หาเงินไม่ได้ ธนาคารก็ยังให้กู้ เพราะเห็นว่าโมเดลธุรกิจแบบนี้มีรายได้พอที่จะชำระเงินกู้ ขณะนี้ได้ประสานกับธนาคารไว้หลายแห่งแล้ว ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี มีเสนอดอกเบี้ยต่ำมาก ประมาณ 5-6 เปอร์เซ็นต์

“กำไรของร้านถูกดี มีมาตรฐาน บริษัทแบ่งคืนมา 15 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของร้านรับไป 85 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีนี้  ตั้งเป้าเปิด 8 พันสาขา ปีหน้าเปิดให้ครบ 3 หมื่นร้าน ปีถัดไปตั้งเป้า 5 หมื่นสาขา คนอยากเข้าร่วมขอให้มีความตั้งใจทำธุรกิจโชห่วยเป็นอาชีพหลัก ไม่ใช่อาชีพเสริม เพราะกำไรร้านโชห่วยนั้น ไม่เยอะ ต้องอาศัยความขยัน เปิด-ปิดร้านเป็นเวลา และอัธยาศัยดี เพื่อเป็นตัวเรียกลูกค้า” คุณเสถียร กล่าว