องค์กรนายจ้าง-ส.อ.ท.เผยเด็กจบใหม่สายสังคมเสี่ยงตกงานสูง-แนะรัฐเร่งปฏิรูปศึกษารับนโยบาย4.0

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า ปี 2560 การจ้างงานภาพรวมของไทยจะปรับเพิ่มขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากอัตราว่างงานของไทยยังคงอยู่ระดับต่ำ เดือนตุลาคม 2559 อยู่ที่ 4.67 แสนคน แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือนักศึกษาจบใหม่ที่จะมีเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้นเดือนมีนาคม 2560 ประมาณ 2.1 แสนคนโดยแรงงานเหล่านี้ส่วนหนึ่งจะประสบปัญหาภาวะตกงานโดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีสายสังคม ดังนั้นหากภาครัฐกำหนดนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อขับเคลื่อนประเทศหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นจะต้องกำหนดแผนพัฒนาแรงงานเพื่อให้สอดรับกับความต้องการตลาด

นายธนิตกล่าวว่า ขณะนี้กำลังหารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อวางแนวทางพัฒนาแรงงานให้สอดรับตลาดโลก และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศโดยเฉพาะอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะต้องเน้นให้การศึกษามุ่งไปสู่ไอที คอมพิวเตอร์ ภาษา ช่างกล รวมถึงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ไปในทิศทางดังกล่าว ทั้งนี้ต้องยอมรับว่านวัตกรรมที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้ตลาดแรงงานเริ่มเปลี่ยนไป โดยอาชีพที่เริ่มมีความเสี่ยง คือ สื่อสารมวลชน และการธนาคาร

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า แนวโน้มการจ้างงานปีหน้าจะยังคงมีเพิ่มขึ้นตามทิศทางการลงทุนที่คาดว่าจะดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐและรัฐวิสหกิจและการลงทุนตรงจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลคือแนวโน้มเด็กจบใหม่ที่มุ่งปริญญาตรีมากกว่าสายวิชาชีพ ทำให้เสี่ยงตกงาน ดังนั้นรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วนและวางเป้าหมายพัฒนาคนที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม4.0 พร้อมกันนี้ควรทำความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงประโยชน์การเรียนสายอาชีพ

“รัฐต้องหามาตรการกระตุ้นให้ผู้ปกครองส่งลูกเรียนระดับ ป.ว.ช. ป.ว.ส. ให้มากขึ้นโดยชี้ให้เห็นประโยชน์ว่าสายนี้จบมาไม่ตกงานแล้วรายได้ยังดีเทียบเท่าจบปริญญาตรี เพราะตลาดแรงงานต้องการมาก”นายวัลลภกล่าว

 

 

ที่มา มติชน