ออมสิน ชวนลูกหนี้รายย่อย-ร้านอาหาร -โรงแรม รีบใช้สิทธิ์พักชำระหนี้ ก่อน 30 ส.ค.

ออมสิน ชวนลูกหนี้รายย่อยร้านอาหารโรงแรม รีบใช้สิทธิ์พักชำระหนี้ สูงสุด 6 เดือน ก่อน 30 .. นี้!

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮ้าส์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19

โดยให้พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวด ก.ค. ธ.ค. 64 โดยธนาคารได้เปิดให้ลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ และมีผู้สนใจเข้ามาตรการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีลูกหนี้อีกบางส่วน ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์พักชำระหนี้ตามมาตรการนี้ ซึ่งการได้พักชำระหนี้จะช่วยเหลือในเรื่องของการเสริมสภาพคล่อง

และยับยั้งไม่ให้ลูกหนี้ต้องกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ที่จะส่งผลกระทบต่อการกู้เงินในอนาคต รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องขาดรายได้หรือรายได้ไม่แน่นอน จึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ขอพักชำระหนี้โปรดรีบใช้สิทธิ์ ก่อนหมดเขตวันที่ 30 สิงหาคม 2564 นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

ทั้งนี้ มาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท และไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบทำให้ต้องเลิกกิจการ ถูกเลิกจ้าง ขาดรายได้ ฯลฯ (ยกเว้นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ) สามารถเข้าตรวจสอบสิทธิ์ในแอพ MyMo และกดทำรายการได้ทันทีที่ปรากฏเมนูพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย

ส่วนผู้ที่ยังไม่มีแอพ MyMo แต่มีบัตรเดบิต สามารถดาวน์โหลดและเปิดใช้งานแอพ MyMo  ด้วยตนเองได้โดยใช้ข้อมูลบัตรเดบิต  ซึ่งจะได้รับความสะดวกในการขอพักชำระหนี้โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่สาขาธนาคาร

สำหรับมาตรการพักชำระหนี้กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮ้าส์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ SMEs มีวงเงินกู้ไม่เกิน 250 ล้านบาท ติดต่อเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GSB Contact Center โทร. 1115

อนึ่ง มาตรการพักชำระหนี้ โดยพักเงินงวดผ่อนชำระให้สูงสุด 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม-เดือนธันวาคม 2564 หลังจากเมื่อสิ้นสุดระยะการพักชำระหนี้ ให้กลับมาจ่ายเงินงวดตามเงื่อนไขเดิม

โดยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้พักไว้ จะถูกนำไปรวมชำระในงวดสุดท้ายของสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงที่ทำกับธนาคาร ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาที่พักชำระหนี้ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระและไม่ส่งผลต่อข้อมูลเครดิตของลูกค้า รวมถึงไม่มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระและค่าปรับใด