เปิดข้อสังเกต แหล่งเงินกู้เถื่อน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 

เปิดข้อสังเกต แหล่งเงินกู้เถื่อน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 
เปิดข้อสังเกต แหล่งเงินกู้เถื่อน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 

เปิดข้อสังเกต แหล่งเงินกู้เถื่อน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 

ในทุกวิกฤตนอกจากสร้างฮีโร่ขวัญใจมหาชนแล้ว ยังต้องระวังมิจฉาชีพที่แอบแฝงมา การแก้ปัญหาและหาทางออกด้านการเงินภายใต้ความยากลำบากนี้ จำเป็นต้องมีสติ เพื่อให้รู้เท่ารู้ทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้แนะนำ ข้อสังเกตลักษณะแหล่งเงินกู้เถื่อนที่พบได้บ่อย ประกอบด้วย

1. สร้างเพจหรือแอพเลียนแบบธนาคารและผู้ให้บริการถูกกฎหมาย โดยใช้ชื่อให้คล้ายเหมือนกับบริษัทเงินกู้ใหญ่ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

2. มีโฆษณาชวนเชื่อที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย เช่น ดอกเบี้ยต่ำ (แต่ไม่จริง ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายคืนทุกรูปแบบรวมกันเมื่อคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ยสูงไม่ต่ำกว่า 100% ต่อปี) ติดแบล็กลิสต์ก็กู้ได้ (อันนี้จริง เพราะมีคนติดตามหนี้เถื่อนที่มีพฤติกรรมอยู่เหนือกฎหมายช่วยให้ลูกหนี้ไม่กล้าเบี้ยวหนี้ แต่อาจจำยอมใช้แหล่งเงินกู้เถื่อนอีกทางเพื่อนำมาวนจ่าย)

3. เพจหรือแอพที่เคยถูกจับยังวนกลับมาเปิดเพจใหม่ให้บริการในลักษณะเดิม โดยเพจใหม่แสดงชื่อเดิมควบคู่ไปกับชื่อใหม่ที่ใกล้เคียงเก่า อาทิ แอพ Consumer Finance ซึ่งศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา มีความเกี่ยวพันรวมถึง 21 แอพ

4. ไม่สะดุ้งสะเทือนกับการประจานออนไลน์จากผู้หลงติดบ่วง โดยจะไม่มีการตอบกลับเพื่อสร้างความเข้าใจใดๆ

5. ช่องทางติดต่อไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับ มีแต่คลิกลิงก์ทางเดียวและรอรับการติดต่อเท่านั้น

ภัยจากการหลงเข้าไปในบ่วงสินเชื่อเงินด่วนโอนไวผิดกฎหมาย มีหลายระดับขั้นของความเสียหาย ซึ่งกว่าจะสามารถหาข้อสรุปและจบปัญหาได้ ผู้กู้ไม่ได้เสียแค่ดอกเบี้ยเหมือนการกู้ในระบบ ดังนี้

1. เสียทรัพย์ ในกรณีที่ถูกหลอกลวงให้ยืนยันตัวตนด้วยการโอนเงินค่ามัดจำ

2. ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือฉ้อโกง ด้วยการคิดดอกเบี้ยสูงมากหลากวิธี เช่น ดอกเบี้ยสูงเป็นรายวันหรือรายเดือน ดอกลอย* ล้ม** เป็นต้น และกรณีที่ถูกหักเงินล่วงหน้าประมาณ 30-40% ของวงเงิน เช่น กู้ 5,000 บาท แต่ได้รับเงินโอนจริง 3,500 บาท

* ดอกลอย เป็นการส่งแต่ดอกเบี้ยโดยเงินต้นไม่ลดลง ทำให้ภาระหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด

** ล้ม เป็นสัญญาที่ต้องส่งคืนดอกเบี้ยและเงินต้นตรงตามระยะเวลาที่กำหนด หากไม่จ่ายงวดใดงวดหนึ่งถือว่าเงินที่ส่งมาแล้วเป็นศูนย์ และต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งจ่ายใหม่ตั้งแต่ต้น

3. ถูกทวงถามหนี้ด้วยวิธีบังคับข่มขู่หรือหมิ่นประมาทให้อับอาย ก่อสงครามจิตวิทยาให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา

4. ไม่ได้รับความช่วยเหลือในกรณีเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ให้กู้ยืมไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง

5. ไม่มีช่องทางการร้องเรียน มีแต่ต้องแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้กู้ต้องติดต่อหน่วยราชการที่ดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ อันได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ ศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

6. ผู้ให้กู้ยืมนอกระบบเป็นผู้มีและใช้อิทธิพล รวมทั้งมีกลุ่มทุนต่างชาติซึ่งไม่ยอมยุติหรือเลิกธุรกิจแม้ว่าจะถูกจับและดำเนินคดีแล้วก็ตาม โดยอาจมีตัวตายตัวแทน หรือไม่สามารถสืบสาวได้ถึงกลุ่มทุนหลัก เนื่องจากลักษณะธุรกิจที่ไม่มีสถานประกอบการแน่ชัดและดำเนินธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

หากหลวมตัวกู้ไปแล้วและยังพอสู้ไหว คงต้องทำใจเผชิญหน้ากับปัญหาการหาทางจ่ายคืนหนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรนี้ ซึ่งหากแก้ไขโดยลำพังไม่ได้ ให้ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่รับปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ

1359 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (จุดรับเรื่องประสานงาน แนะนำช่องทางการไกล่เกลี่ยและช่องทางสินเชื่อในระบบอื่นๆ เช่น Pico Finance สถาบันการเงินเฉพาะกิจ)

1567 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย (รับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่ ป้องกันปราบปรามและไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับหนี้นอกระบบในพื้นที่ที่รับผิดชอบ)

02-142-1444 สำนักงานอัยการสูงสุด (ไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย)

02-142-2034 สำนัก​งานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีประจำจังหวัด (ไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบในพื้นที่นอกกรุงเทพมหานคร)

1599 ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ประสานงานกับตำรวจในท้องที่เพื่อให้เป็นไปตามการบังคับใช้กฎหมาย)

02-575-3344 ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม

นอกจากนี้ บางกรณีเป็นการต้มตุ๋นที่พรางตัวเป็นแหล่งเงินกู้เถื่อน ซึ่งเหยื่อจะไม่ได้รับสินเชื่อ แต่จะถูกหลอกให้ส่งมอบเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น พร้อมทั้งถูกขอให้ “จ่ายเงินเป็นค่าธรรมเนียมดำเนินการ” ตามวงเงินที่ต้องการ หรืออาจแฝงมาในรูปการแจ้งข่าวได้รับรางวัลพิเศษซึ่งต้องโอนเงินค่าภาษีหรือค่าดำเนินการให้ก่อน เมื่อมิจฉาชีพรับเงินแล้วจะบล็อกบัญชีทันที

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เพียงใด ขอให้ใช้สติปัญญาของตนเองให้เต็มที่ ตรวจสอบเช็กกลับทุกวิถีทาง โดยหากไม่มั่นใจว่าเพจหรือแอพที่ให้ยืมเงินเป็นแหล่งเงินกู้เถื่อนหรือไม่ ให้นำชื่อบริษัทผู้ให้บริการ ไปค้นหาในเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสอบถามผ่านเพจศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โปรดอย่าใจร้อนและด่วนตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างง่าย เพราะอาจมีผลให้ชีวิตไปต่อลำบาก