เผยแพร่ |
---|
คุณแม่นักสู้ คว้ามอไซค์ขับแกร็บ หาเงินส่งลูกเรียนสูงๆ ไม่ต้องลำบากเหมือนแม่
วันแม่ปีนี้ บรรยากาศความอบอุ่นของหลายครอบครัวคงเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนไกลบ้านที่ออกมาทำงานหาเงิน ท่ามกลางวิกฤตแบบนี้คงไม่สามารถกลับบ้านได้ เช่น คุณอ้อย-ศิริพร สีขำ วัย 35 ปี สาวสุพรรณบุรี เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาตายเอาดาบหน้าตั้งแต่อายุ 15 โดยมีความรู้ติดตัวแค่ ป.3 แต่ก็สามารถผลักดันตัวเองให้เรียน กศน. จนจบ ม.3 ได้

ชีวิตของคุณอ้อย ผ่านการทำงานมาแล้วหลายอย่าง ทั้งสาวโรงงาน งานก่อสร้าง ฯลฯ แต่ด้วยความโชคดี ได้เพื่อนมาสอนนวดแผนไทย จึงมีวิชาติดตัวยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงตัวเองมาตลอด 20 ปี แต่พอเจอโควิดก็ได้รับผลกระทบโดยตรง
“เราต้องหยุดงานจากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนจนปีกว่าแล้วที่ไม่ได้กลับไปนวด ไปสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟช่วงหนึ่ง แต่ร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ตอนที่กำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะหารายได้ทางไหนดีก็มีเพื่อนมาชวนขับแกร็บส่งอาหาร เลยคิดว่าอยากลองดูสักตั้งไม่เสียหายอะไร ขับมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ 7 เดือนกว่าแล้ว”

เมื่อต้องเริ่มต้นทำอาชีพใหม่ที่ไม่คุ้นเคยหลายคนอาจท้อและถอดใจ แต่ไม่ใช่กับคุณแม่นักสู้คนนี้
“คว้ามอเตอร์ไซค์ออกไปอยู่ในจุดที่เขาบอกกันว่าร้านอาหารเยอะ วันแรกค่อนข้างทุลักทุเล เพราะดู GPS ไม่เก่ง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ เกือบขับไปบ้านลูกค้าไม่ถูก อุปสรรคเยอะไปหมด แต่โชคดีอย่างหนึ่งคือเราเป็นคนกล้าถาม อะไรที่ไม่รู้ก็ถามพี่ๆ เพื่อนๆ ด้วยกัน ซึ่งเขายินดีสอนเราตลอด จนตอนนี้เราเก่งขึ้นกลายเป็นฝ่ายสอนคนอื่นแล้ว”
ปัจจุบันคุณอ้อยเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 2 คนคือ น้องเบนซ์ ลูกสาวคนโตวัย 19 ปี และน้องเป้ ลูกชายคนเล็กวัย 11 ปี อาศัยอยู่กับคุณยายที่จังหวัดสุพรรณบุรี แม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่กับลูกทั้งสอง แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกต้องห่างกัน
“ให้ลูกอยู่กับคุณยายจะได้เรียนหนังสือ อยากให้เขาได้เรียนสูงๆ ไม่ต้องมาลำบากเหมือนแม่ ปกติเวลาเก็บเงินได้สักก้อนหนึ่งจะกลับไปหาเขาบ่อยๆ แต่ปีนี้เจอกันยากขึ้น เพราะเราอยู่ในจุดเสี่ยงไม่อยากเอาความเสี่ยงกลับไปหาครอบครัว ซึ่งลูกๆ เข้าใจเขารู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้คอยทำงานหาเงินเพื่ออนาคตของพวกเขา”

“ทุกวันนี้พี่โทรคุยกับลูกทุกวันเลย ความเป็นแม่ลูกกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนความสัมพันธ์มันไม่มีวันเปลี่ยน อีกอย่างโชคดีที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องลูกให้หนักใจเลย พวกเขาเองยังช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจเเม่ด้วยซ้ำ อย่างน้องเบนซ์ก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเพื่อหารายได้เสริม การที่เราเห็นว่าลูกตั้งใจเรียน ดูแลตัวเองได้และไม่เกเรนี่ถือเป็นความภูมิใจสูงสุดของคนเป็นแม่แล้วนะ” คุณอ้อย กล่าวถึงลูกทั้งสองด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจ
ก่อนจบบทสนทนาระหว่างคุณแม่นักสู้คนนี้ คุณอ้อย กล่าวทิ้งท้ายพร้อมสายตามุ่งมั่นว่า “เวลาที่รู้สึกว่าท้อ สำหรับคนเป็นแม่ขอแค่หันไปมองหน้าลูกสักครั้ง ร้อยทั้งร้อยจะมีแรงฮึดสู้ต่อ เพราะลูกคือกำลังใจที่ดีที่สุดของคนเป็นแม่”