แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล
แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

วันที่ 30 ก.ค. 2564 นายอเลฮานโดร โอโซริโอ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น แกร็บ ประเทศไทย ได้เปิดตัวโครงการ ‘สู้ไปด้วยกัน’ เพื่อมุ่งบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตโควิดระลอกที่ 4 ให้กับคนไทยใน 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ป่วยและโรงพยาบาล พาร์ตเนอร์คนขับ รวมถึงผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม โดยได้ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ 

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล
แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

ทั้งนี้ 4 กิจกรรมหลักภายใต้โครงการ “สู้ไปด้วยกัน” ประกอบด้วย 

1. พร้อมใจสู้คู่ร้านค้า : โดยแกร็บร่วมกับ KBank เตรียมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารผ่านโครงการ “ร่วมด้วย ช่วยเปย์” เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายและกระแสเงินสดหมุนเวียนให้กับธุรกิจร้านอาหาร

มอบเงินสนับสนุนให้กับพาร์ตเนอร์ร้านค้าที่ใช้บัญชีกสิกรไทยในอัตรา 15% ของยอดขายในเดือนสิงหาคม (จำกัดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อร้าน) โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง grabmerchantth.com/grabfood-kbank

เตรียมจัดแคมเปญ “ร่วมด้วย ช่วยเปย์” เพื่อมอบส่วนลดค่าอาหาร 50% เมื่อสั่งอาหารผ่าน GrabFood พร้อมช่วยโปรโมตร้านอาหารขนาดเล็กทั่วประเทศผ่านสื่อและแอพพลิเคชั่น โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล
แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

2. พร้อมใจสู้คู่สังคมไทย : โดยแกร็บร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย พร้อมส่งเสริมการบริจาคสมทบทุนโรงพยาบาลเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19

ร่วมกับ CRG เพื่อช่วยจัดส่งอาหารจากแบรนด์ในเครือด้วยบริการ GrabExpress ให้กับผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้านภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นอกจากนี้ ยังได้มอบส่วนลดค่าบริการให้กับเครือข่ายช่วยเหลือสังคม อาทิ เพจเราต้องรอด และโรงพยาบาลศิริราช ในการจัดส่งอาหารหรือยาให้กับผู้ป่วย

ชวนผู้ใช้บริการเปลี่ยนคะแนน GrabRewards เป็นเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ มูลนิธิรามาธิบดี โดยแกร็บจะร่วมสมทบทุนอีกเท่าตัวของยอดบริจาคทั้งหมดด้วย

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล
แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

3. พร้อมใจสู้คู่พี่คนขับ : สร้างความอุ่นใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือพาร์ตเนอร์คนขับที่ถือเป็นด่านหน้าในการให้บริการการเดินทางและการจัดส่งอาหาร-พัสดุ

ผนึก PTG มอบสิทธิประโยชน์ในการเข้ารับบริการพ่นฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับพาร์ตเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหารของแกร็บที่สถานีบริการปั๊มน้ำมันพีที 855 สาขาทั่วประเทศไทย ตลอดเดือนสิงหาคมฟรี! ครอบคลุมทั้งการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมไปถึงกล่องใส่อาหาร

ร่วมกับ GQ Apparel ทยอยมอบหน้ากากผ้ารุ่น GQWhite™ Mask พร้อมลายสกรีน Vaccinated จำนวน 150,000 ชิ้น ให้กับพาร์ตเนอร์คนขับที่ได้รับวัคซีนแล้ว นอกจากนี้ ยังได้จับมือกับพันธมิตรอื่นๆ อาทิ ยูนิลีเวอร์ เป๊ปซี่โค แบรนด์ซันโทรี อายิโนะโมะโต๊ะ และเทนเซ็นต์ เพื่อจัดทำ “ถุงพร้อมใจ” ที่บรรจุผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่างๆ เพื่อมอบให้กับพาร์ตเนอร์คนขับที่ได้รับผลกระทบ

แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล
แกร็บ ผุดโครงการสู้ไปด้วยกัน ทุ่ม 160 ล้าน หนุนร้านอาหาร คนขับ ผู้ป่วย โรงพยาบาล

4. พร้อมใจสู้คู่คนไทย : โดยการมอบส่วนลดค่าบริการส่งอาหารและพัสดุผ่าน GrabFood GrabMart และ GrabExpress เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไตรมาสที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2564

มอบส่วนลดสูงสุด 80% สำหรับผู้ใช้ใหม่ (3 ครั้งต่อผู้ใช้) เพียงใส่โค้ด “WITHYOU80”

มอบส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับผู้ใช้เดิม (3 ครั้งต่อผู้ใช้) เพียงใส่โค้ด “ WITHYOU30”

“ท่ามกลางวิกฤตโควิดระลอกล่าสุดซึ่งถือว่าหนักหนาและส่งผลกระทบในวงกว้างมากกว่าทุกครั้ง แกร็บ พร้อมด้วยพันธมิตรของเรา ขอร่วมเคียงข้างคนไทยเพื่อ ‘สู้ไปด้วยกัน’ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารมียอดขายเพิ่มขึ้นเพื่อต่อลมหายใจ ให้คนขับมีรายได้อย่างต่อเนื่อง แบ่งเบาภาระให้กับผู้บริโภคและโรงพยาบาล รวมไปถึงช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย เพื่อให้พวกเราสามารถฝ่าฟันและก้าวข้ามความยากลำบากครั้งนี้ไปให้ได้” นายอเลฮานโดร กล่าว