เผยแพร่ |
---|
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานการจัดงาน “Thailand Halal Assembly 2016” เผยว่า ตลาดรวมสินค้าฮาลาลทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐและมีผู้บริโภคชาวมุสลิมทั่วกว่า 1.8 พันล้านคน ซึ่งประเทศไทยส่งออกสินค้าฮาลาลอยู่ที่ 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ถึงแม้ภาพรวมการส่งออกของไทยจะตกลงแต่มูลค่าการส่งออกสินค้าฮาลาลของไทยกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกสินค้าฮาลาลไม่น้อยกว่า 15 % ซึ่งเห็นได้ว่าสินค้าฮาลาลของไทยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เพราะกระบวนการผลิตสินค้าฮาลาลไทยได้มาตรฐานตามคุณลักษณะที่โดดเด่นในระบบและกระบวนการดำเนินงาน ภายใต้หลักการศาสนารับรองวิทยาศาสตร์รองรับ อันเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทยเป็นที่เชื่อถือในตลาดโลก
“ในปีนี้ผลิตภัณฑ์ฮาลาลของประเทศไทยจัดจำหน่ายอยู่ทั่วโลกอยู่ในอันดับที่ 10 ของโลก เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 13 จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยต้องขึ้นไปอยู่ในอันดับหนึ่งใน5ของโลกให้ได้ ภายในปี 2562”
รศ.ดร.วินัยกล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และหลายหน่วยงานร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ “Thailand Halal Assembly 2016” ขึ้นเป็นที่ที่ 3 เพื่อรวบรวมสินค้าและบริการฮาลาล พลังของคนยุคใหม่สู่การนำสินค้าฮาลาลสู่การขับเคลื่อนธุรกิจ โดยไม่ละเลยที่จะเน้นเศรษฐกิจพอเพียง “ตามรอยพ่อ” ภายใต้แนวคิด “Steering towards Thailand & International Halal 4.0” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นงานด้านกิจการฮาลาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมจัดนิทรรศการ “In Remembrance of His Late Majesty King Bhumibol Adulyadej” ขึ้นเพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรมุสลิมในประเทศไทย
ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯกล่าวอีกว่า จากนโยบายรัฐบาลที่ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ประเทศไทยจึงขับเคลื่อนสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้พัฒนาอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ฮาลาลของไทยให้ก้าวสู่ Thailand Halal 4.0 เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มการส่งออกเช่นเดียวกัน โดยในส่วนระบบการรับรองฮาลาลมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประยุกต์มากขึ้น ซึ่งทางศูนย์ฯได้เริ่มพัฒนาระบบ SPHERE เชื่อมโยงเครือข่ายการรับรองฮาลาลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มีการจัดทำฐานข้อมูลวัตถุเจือปนที่ฮาลาล หรือ H Numbers (Halal Number) เชื่อมโยงผ่านระบบดิจิทัล พัฒนาเส้นทางฮาลาลสำหรับนักเดินทาง Halal Route และพัฒนาศักยภาพตลาดฮาลาลที่ก้าวหน้าให้ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้น Thailand Halal 4.0 จึงถือว่าเริ่มต้นขึ้นก่อนประเทศใดๆ และคงต้องพยายามที่จะพัฒนาให้รุดหน้าก้าวนำประเทศอื่นอย่างต่อเนื่อง