เผยแพร่ |
---|
แบ่งพื้นที่ทำครัว ขอแค่ค่าน้ำ-ไฟ หัวปลาช่องนนทรี ช่วยร้านอาหารที่ปิดตามคำสั่งรัฐ
คุณโบ๊ท-วิทยา ลิมป์รัตนกาญจน์ วัย 37 ปี ผู้บริหาร บจก.หัวปลาช่องนนทรี ร้านอาหารสไตล์ ไทย จีน ซีฟู้ด เปิดมายาวนานกว่า 38 ปี เล่าว่า ร้านหัวปลาช่องนนทรี เริ่มต้นมาจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นช่างทำประตู ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน หลังทำงานเสร็จจึงช่วยกันหารายได้พิเศษทำ ด้วยการเปิดร้านอาหาร แชร์พื้นที่ร้านกับเจ้าของร้านอีกเจ้า มีลักษณะเป็นเพิงขายข้าวต้มกลางคืน หม้อไฟ อาหารตามสั่ง จนลูกค้าเรียกต่อๆ กันมาว่า ร้านหัวปลาช่องนนทรี เพราะตั้งอยู่บริเวณช่องนนทรี
ปัจจุบัน ร้านหัวปลาช่องนนทรี เปิดให้บริการ 6 สาขา สแตนด์อโลน ได้แก่ สาขาพระราม 3, สาขาศรีนครินทร์, สาขาบางนา, สาขารามอินทรา, สาขานครอินทร์ และสาขาสามแยกปักฯ โคราช ส่วนในห้างสรรพสินค้า มี 2 สาขา คือ สาขาเมกา บางนา สาขาเทอร์มินอล 21 โคราช
ทายาทรุ่นสอง เผยต่อว่า โควิดระลอกล่าสุด สร้างผลกระทบยาวนานกว่ารอบที่ผ่านมา ร้านต้องปรับตัวแก้เกมวันต่อวัน มีการโยกย้ายพนักงานตั้งแต่การระบาดรอบแรก จากการปิดสาขา หรือเดินทางกลับบ้านและไม่กลับมา ทำให้พนักงานหายไป 100 กว่าคน เหลืออยู่ในความดูแลราวๆ 300 คน ซึ่งพอดีกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถเปิดบริการเต็มรูปแบบได้
“ทุกแบรนด์แข่งกันทำโปรโมชั่นดึงลูกค้า พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนหันมาทำกับข้าวทานเอง ร้านอาหารจึงต้องมาแชร์ลูกค้าที่สามารถซื้ออาหารนอกบ้านได้ เช่น ทำโปรซื้อ 1 แถม 1 แต่ทำโปร นานๆ ลูกค้าเบื่อ ต้องคิดตลอดเวลาหาความคุ้มค่าให้ลูกค้า ซึ่งการจัดโปรบางทีบวกลบแล้วเหลือถึงร้านแค่ 10 บาท ถึงได้น้อยแต่ลูกน้องมีงานทำ และเราหวังว่าเขาจะสั่งเมนูอื่นเพิ่ม ถ้าไม่ดีลิเวอรี่ก็ไม่ได้ 10 บาท ดีกว่ายอดเป็นศูนย์ ตอนนี้หากอยากทานอาหารร้านเราสามารถโทรสั่ง หรือสั่งผ่านแอพ ดีลิเวอรี่ได้ทาง แกร็บ และไลน์แมน” คุณโบ๊ท เล่า
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ ร้านอาหารในห้างไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คุณโบ๊ท ระบุว่า ร้านหัวปลาช่องนนทรี มี 2 สาขา ตั้งอยู่ในห้างเหมือนกัน คือ สาขาเมกา บางนา และสาขาเทอร์มินัล 21 โคราช
และล่าสุดกับไอเดีย “หัวปลาช่องนนทรี พร้อมแบ่งพื้นที่ให้ใช้สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากประกาศยกระดับมาตรการควบคุมโควิด ทำให้ไม่สามารถเปิดร้านอาหารได้” ทายาทรุ่นสอง วัย 37 ปี เผยว่า
“ผมได้รับข้อความจากน้องคนหนึ่งส่งเรื่องร้านอาหารร้านหนึ่งมาให้ และถามว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง เลยรีบประชุมกับทีมและคุณพ่อว่าอยากช่วย ไม่ได้อยากเปิดให้เช่าเพราะมีแต่พื้นที่ โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ ซิงก์ล้างของให้ ไม่รู้ว่าจะอำนวยความสะดวกอะไรให้เขาได้บ้าง เลยแบ่งให้ใช้ดีกว่า ขอแค่ค่าน้ำ-ไฟ ค่าเก็บขยะ วันละ 300-400 บาท เป็นตัวเลขที่ผมตั้งไว้คร่าวๆ ด้วยไซซ์ร้านผมใหญ่อยู่แล้วเลยมาแบ่งให้ใช้กัน บรรยากาศอาจจะคึกคักขึ้นมาบ้าง ผู้ประกอบการที่จะใช้เป็นฮับกระจายสินค้า หรือจะปรุงอาหารขายก็นำเตาแก๊ส เตาไฟฟ้ามาเองได้เลย ช่วยๆ กัน”
สำหรับผู้ประกอบการที่จะมาขอใช้พื้นที่ มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิปกติ ตอนนี้ติดต่อเข้ามา 2-3 รายแล้ว
“ผมสามารถเปิดให้ใช้ได้จนกว่าจะมีมาตรการกลับมานั่งทาน ถ้าห้างกลับมาเปิดผมเชื่อว่าเขาอยากกลับอยู่แล้วเพราะอุปกรณ์ครบกว่า แต่ถ้าติดใจอยากตั้งเป็นฮับเล็กๆ ต้องวางแผนกันต่อ” คุณโบ๊ท ทิ้งท้าย