ลดใช้พลาสติกสำหรับอาหารดีลิเวอรี่ ทำยังไงกันดี ใครคิดออกช่วยบอกที

ลดใช้พลาสติกสำหรับอาหารดีลิเวอรี่ ทำยังไงกันดี ใครคิดออกช่วยบอกที
ลดใช้พลาสติกสำหรับอาหารดีลิเวอรี่ ทำยังไงกันดี ใครคิดออกช่วยบอกที

ลดใช้พลาสติกสำหรับอาหารดีลิเวอรี่ ทำยังไงกันดี ใครคิดออกช่วยบอกที

ตั้งแต่คนไทยหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ มานี่ อาหารดีลิเวอรี่ มาแรงมากมาย ใครอยากขายอะไรทำขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ดีกว่าอยู่เฉยๆ ผลพวงที่ตามมา คือ ขยะพลาสติก จากถุงพลาสติกและกล่องพลาสติกใส่อาหาร เพิ่มขึ้นเป็น 6,300 ตันต่อวัน จากปกติ 5,500 ตันต่อวัน ไม่พูดถึงแมสก์คลุมปากทิ้งกันวันละ 2 ล้านชิ้น

ก่อนที่โควิดมา รัฐบาลกำลังรณรงค์เรื่องลดการใช้ถุงพลาสติก ทำท่าว่าจะประสบความสำเร็จ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าให้ความร่วมมือ งดใช้ถุงพลาสติก เปลี่ยนเป็นถุงผ้า ถุงกระดาษ หรือไม่แจกถุงเลย ประชาชนก็ยอมตามหาถุงมาใส่ของกันเอง คนเริ่มตื่นตัวเรื่องการลดขยะกัน เรียกว่า “Go Green” เป็นสังคมสีเขียวรักษ์โลก กล่องใส่อาหารก็ต้องเลือกใช้แบบย่อยสลายได้ หรือกล่องกระดาษ ไปไหนมาไหนหิ้วถุงผ้า เหลือแต่เรื่องคัดแยกขยะที่คนไทยยังขี้เกียจแยกกันอยู่ แต่พอโควิดมาเท่านั้นแหละ ตบะแตก ขยะพลาสติกมะลึกมะลือยิ่งกว่าเดิม

เลยอยากจะชวนทุกท่านกลับมา Go Green กันเข้มๆ เลย หัวใจของการเป็นสีเขียวมีง่ายๆ แค่ “ลด ใช้ซ้ำ ทำใหม่” หรือเขาเรียกกันว่า 3R คือ Reduce = ลด Reuse = ใช้ซ้ำ Recycle = ทำใหม่ สำคัญสุด คือ ตัวแรกครับ อะไรที่ลดการใช้ได้ หรือเลิกใช้ไปเลยยอดเยี่ยมที่สุด ลองคิดว่าถ้าทุกคนเลิกใช้ถุงพลาสติกทั้งโลก โลกจะน่าอยู่ขึ้นขนาดไหน วาฬ เต่า ปลาโลมา ไม่ต้องกินถุงพลาสติก แพลงก์ตอนไม่ต้องสูบเอาไมโครพลาสติกเข้าตัว บนดินไม่มีขยะพลาสติก ผมเคยเห็นกวางที่เขาใหญ่เคี้ยวเอื้องถุงพลาสติก จะไปแย่งจากปากมันก็กลัวโดนขวิดตาย

ถุงพลาสติก เลิกได้กลับไปใช้ถุงผ้า ถุงกระดาษเหมือนเดิม โรงงานช่วยทำถุงกระดาษให้เหนียวขึ้นหน่อย แต่ไอ้กล่องใส่อาหารนี่ซิเอาอะไรแทนดี ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนหันมาเป็นสีเขียว ภาครัฐออกคำสั่งบังคับปนๆ ส่งเสริม โรงงานพลาสติกก็ต้องหาวัตถุดิบย่อยสลายทดแทนมาใช้ได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นคงอีกนาน ถึงจะมีเทคโนโลยีนี้แล้ว แต่ถ้าความต้องการยังไม่บังเกิด การตอบสนองก็ยังไม่ตามมา ผลิตน้อยต้นทุนสูงครับ ผมเองก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาแทนกล่องพลาสติกดี

อาหารดีลิเวอรี่

ที่บ้านเขาทันสมัย ทำอาหารกล่องส่งขายกับเขาเหมือนกัน กลัวอดตายยุคโควิด เขาซื้อกล่องกระดาษมาใช้บ้างแต่ใส่ของน้ำ ของมันไม่ได้ บางคนเลี่ยงไปใช้กล่องกระดาษแต่เอาถุงพลาสติกรองกันน้ำมันซึมอีกชั้น เลยกลายเป็นเพิ่มขยะมากกว่าเดิม มีหลายที่ใช้ใบตองรองแทน นับว่าดี แต่ต้องมีต้นกล้วย ซื้อใบตองมาแต่ละวันไม่ค่อยคุ้มครับ เดี๋ยวก็เหี่ยว เสียของอีก ซื้อน้อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวแม่ค้าหน้างอ

กล่องพลาสติกชนิดเข้าไมโครเวฟได้ และย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เขามีขายแล้ว ทั้งตัวทั้งฝา แต่แพงกว่ากล่องพลาสติกทั่วไปประมาณเท่าตัว เราเลยต้องไปเพิ่มในราคาขาย ทำให้ของแพงขึ้น คนเลยไม่ซื้อ  ซะงั้น พวกของน้ำๆ ยังไงต้องพึ่งถุงพลาสติกหรือถ้วยพลาสติกอยู่ดี ไม่รู้จะหาเอาอะไรมาใส่แทนได้ ยิ่งพวกน้ำจิ้มเปลืองพลาสติกโคตร ใส่นิดใส่หน่อยก็ใส่ถุงรัดหนังสติ๊ก ใส่ขวดเล็กขวดน้อย ที่สำคัญ ของที่เป็นขยะเหล่านี้หาซื้อง่ายกว่าของที่ไม่เป็นขยะ แล้วใครจะเป็นสีเขียวได้ล่ะครับ

เรื่องลดการใช้พลาสติกสำหรับอาหารดีลิเวอรี่นี่ ผมยอมแพ้จริงๆ ใครคิดออกช่วยบอกที มีที่ทำได้คือผมพยายามบอกคนจัดอาหารกล่องว่า อะไรที่ไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกได้ก็ไม่ต้องใส่ ใส่กล่องไปกับอาหารเลย เช่น ผักต่างๆ กระเทียมเจียว พริกขี้หนู อะไรทำนองนี้ ถุงใส่อาหารกล่องส่งกล่องเดียวก็ถุงเล็ก หลายกล่องเอาถุงใหญ่ถุงเดียว อย่าแยกหลายถุง พอลดการใช้พลาสติกไปได้บ้าง

มาถึงการใช้ซ้ำ ทุกบ้านน่าจะทำเหมือนกัน คือ เก็บถุงพลาสติก ถุงก๊อบแก๊บไว้ใส่ขยะ แต่ที่ผมอยากเสริมก็คือหาถุงพลาสติกที่พอดีกับการทิ้งขยะในแต่ละครึ่งวันหรือทั้งวัน อย่าใช้ถุงเล็กถุงน้อยใส่ขยะอย่างละหน่อย แล้วทิ้งเป็นหลายถุง ใส่ขยะถุงเดียวทิ้งทีเดียวครับ ส่วนกล่องใส่อาหารสามารถล้างและนำมาใช้ได้อีกหนึ่งครั้งใส่อาหารได้ แต่ห้ามนำเข้าไมโครเวฟซ้ำสอง เพราะกล่องพวกนี้ออกแบบมาให้เข้าไมโครเวฟได้หนเดียว ใช้เก็บอาหารเหลือเข้าตู้เย็นได้ ใส่อาหารไปที่ทำงานได้ ใช้อีกหนแล้วค่อยทิ้ง การทิ้งขยะแต่ละอย่างก็สำคัญ ขยะใดนำไปแปรรูปได้ต้องแยกไว้ ซึ่งยังเป็นจุดอ่อนต้องกำจัดของคนไทยมากที่สุด

อย่างแรกเลย คือ เศษอาหาร เราไม่เคยแยก เพราะเศษอาหารเก็บรวมไว้แล้วมันเหม็นบูด ถ้ามีที่ทาง สามารถตั้งบ่อซีเมนต์ หรือขุดหลุม เอาดิน ใบไม้ใส่ ใส่เศษอาหาร โรยน้ำหมักชีวภาพ เอาดินกลบ ทำเป็นชั้นๆ ไป แล้วมากลับทุก 7 วัน เดือนนึงก็จะได้ปุ๋ยชั้นดี ใช้ถังน้ำมันหรือถังขยะสูงๆ แบบไม่รั่วก็ได้ แต่ต้องปิดดีๆ เดี๋ยวแมลงวันตอม เลยเป็นเหตุผลว่าไม่ค่อยมีใครอยากทำ ถ้าไม่ขยันรักษ์โลกจริงๆ

กล่องพลาสติกบรรจุอาหาร

ตอนนี้เขามีเครื่องทำปุ๋ยจากเศษอาหารเป็นเครื่องบดและหมักด้วยจุลินทรีย์ในตัวแต่ราคายังแพงเกินเอื้อม  ขยะพวกผักผลไม้ออกจะง่ายกว่าเศษอาหาร เก็บแล้วไม่เหม็นมากมาย ทำวิธีเดียวกัน หรือแยกเฉพาะพวกส้ม สับปะรด มาทำน้ำหมัก เอาไปผสมทำน้ำยาล้างจาน ล้างพื้นได้ พวกเปลือกผลไม้ผมโยนใส่ดินกับเศษใบไม้ กลบๆ ทับๆ ปีนึงก็มาขุดดินข้างล่างซึ่งย่อยสลายดีแล้วเอาไปใส่ต้นไม้ ใต้กองปุ๋ยธรรมชาตินี้จะมีไส้เดือนมาอยู่เองเต็มไปหมด แสดงว่าเราได้ดินคุณภาพดีแล้ว ล่าสุดผมแยกกากกาแฟเพราะชอบดื่มกาแฟ เอาไปผสมดินทำปุ๋ย เขาบอกเป็นปุ๋ยไนโตรเจนชั้นดี เหมาะกับไม้ใบเขียวสวย

เรื่องพวกนี้ต้องขยันพูด ขยันทำ ขยันชักชวนคนในบ้านครับ ถึงจะสำเร็จ ที่เยอะมากๆ คือ ขวดน้ำ มาทุกวัน ผมพยายามเอาน้ำใส่ขวดไปกินในรถ แต่สัปดาห์เดียวขวดน้ำมาจากไหนไม่รู้เต็มบ้านอีกแล้ว เลยแยกไว้ขายเจ๊กซื้อขวด น้ำมันทอดแล้วกรอกใส่ขวดแกลลอนไม่ทิ้งลงท่อระบายน้ำ กล่องกระดาษที่สั่งของกันนักมาทุกวัน เก็บพับแยกไว้ขายเหมือนกัน พวกนี้โรงงานเอาไปทำของรีไซเคิลมาเป็นสินค้าให้เราใช้ใหม่ได้

การเป็นคนสีเขียวไม่ได้ยากอะไร ขอให้เปลี่ยนนิสัย ความเคยชิน และต้องพร้อมใจกันทั้งบ้าน ลองเริ่มต้นดู คนอื่นเห็นเราทำเดี๋ยวเขาก็ทำตาม ถ้าไม่หาว่าเราบ้าซะก่อนนะครับ