ซีอีโอเจนสาม สุกี้โคคา แอบเศร้า ทำไมต้องเป็นเรา สั่งปิดสาขาตำนาน

ซีอีโอเจนสาม สุกี้ โคคา แอบเศร้า ทำไมต้องเป็นเรา สั่งปิดสาขาตำนาน
ซีอีโอเจนสาม สุกี้ โคคา แอบเศร้า ทำไมต้องเป็นเรา สั่งปิดสาขาตำนาน

ซีอีโอเจนสาม สุกี้ โคคา แอบเศร้า ทำไมต้องเป็นเรา สั่งปิดสาขาตำนาน

เป็นเจนสามที่มีธุรกิจร้านอาหารฝังแน่นอยู่ในดีเอ็นเอ จบการศึกษาด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์การอาหาร จากสถาบันการศึกษาชื่อดัง คิงส์ คอลเลจ ประเทศอังกฤษ มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วในหลายประเทศ ทั้ง อังกฤษ จีน และ สหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาดูแลกิจการครอบครัว ในตำแหน่งซีอีโอ

“แอบเศร้านิดนึง เพราะคุณปู่ คุณย่า อุตส่าห์สร้างขึ้นมาจนเติบโต ส่วนคุณพ่อ ก็สานต่อมาได้ขนาดนี้ แล้ววันนี้เราทำอะไร ทำไมต้องมาปิดสาขาที่เป็นเหมือนตำนาน เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ค่อนข้างยากเหมือนกัน”

คุณนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ซีอีโอ บริษัท โคคาโฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของกิจการ ภัตตาคาร สุกี้ โคคา กล่าวกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ น้ำเสียงหม่น เมื่อย้อนถึงความรู้สึกตอนตัดสินใจสั่งปิดกิจการ สุกี้ โคคา สาขาสยามสแควร์  ด้วยสาเหตุหลัก กิจการได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19

“จนถึงวันนี้ เรื่องของโควิด-19 ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เลย เลยต้องตัดสินใจให้รอดไปก่อน เพราะผลกระทบไม่ใช่แบรนด์อย่างเดียว ยังมีคนเบื้องหลัง คือ พนักงานนับร้อยชีวิต ถ้าขายไม่ได้ พวกเขาก็ไม่มีรายได้ ที่ผ่านมา พวกเราอยู่กันแบบครอบครัว พนักงานหลายคนทำงานมานาน 30-40 ปี ก็มี” คุณนัฐธารี บอกตรงๆ

ถ้าไม่นับเหตุการณ์โควิด ธุรกิจร้านอาหารยุคนี้ อยู่ยาก อยู่ง่าย แค่ไหน  คุณนัฐธารี บอก ยากมาก ถ้าตอบว่าไม่ยากคงโกหก มีหลายเรื่องที่ต้องคิด ทั้งเรื่องการแข่งขัน เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ประกอบการต้องตามให้ทัน

“เราเป็นบริษัทมา 63 ปี ก่อนโควิด การเปลี่ยนแปลงหรือการตัดสินใจอะไร ค่อนข้างเป็นระบบ แต่พอมาเจอ โควิด ตูมเดียว ต้องคิดแบบพลิก 360 องศากันเลย เพื่อพาทุกคนก้าวผ่านไปให้ได้ พนักงานที่มีอยู่ อายุ 18-60 ปี จึงต้องจูน คนทุกรุ่นให้เข้าใจในทิศทางเดียวแล้วไปด้วยกัน” ซีอีโอสาว บอกอย่างนั้น

และว่า ล่าสุดจึงออกโมเดลธุรกิจแนวใหม่ เรียกว่า โคคา ป๊อปอัพ ที่ย่อขนาดลงมา เนื่องจากภาพเดิม สุกี้ โคคา เป็นโมเดล ร้านอาหารเหลา หรือ ภัตตาคาร 400 ที่นั่งโดยเฉลี่ย  แต่ ณ วันนี้ ถ้าจะพาธุรกิจไปให้รอด ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องยุบลงมา โคคา ป๊อปอัพ จึงปรับให้เหลือ 60 ที่นั่ง และเน้นดีลิเวอรี่ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกำลังขยายทำเลไปโซนนอกเมือง ตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ

คุณนัฐธารี บอกด้วยว่า เจนแรกคือ คุณปู่ คุณย่า ของเธอ สร้างกิจการสุกี้ โคคา ได้แข็งแรง ก่อนส่งต่อให้ เจนสอง คือ คุณพ่อของเธอ ซึ่งสามารถพาแบรนด์อาหารไทยไปเติบโตในต่างประเทศ เปิดร้านอาหารไทย แบรนด์ แมงโก้ ทรี ตั้งแต่เมื่อ 28 ปีที่แล้ว กระทั่งมีการลงทุนต่อในรูปแบบของแฟรนไชส์ที่ประเทศญี่ปุ่น กระทั่งวันนี้ สามารถเอาชนะใจชาวต่างชาติ และพิสูจน์ได้ว่าอาหารไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ส่วนตัวเธอ ในฐานะเจนที่สาม ซึ่ง “อิน” กับอาหารมาก จึงสานต่อแนวคิดหลายอย่างทั้งจากเจนหนึ่งและเจน สอง

“คุณย่า สอนเสมอ อาหารที่อร่อย ต้องมาจากวัตถุดิบที่สดเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่มาได้ถึงหกสิบกว่าปี ส่วน คุณพ่อ บอกตลอด อะไรที่ไม่ให้ลูกกิน ผมไม่เสิร์ฟให้ลูกค้า นั่นคือที่มาของการใช้ผักออร์แกนิก และเนื้อสัตว์ปลอดสาร ในร้านสุกี้ โคคา มานานแล้ว ทั้งที่ต้นทุนสูงกว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายเลือด และเชื่อว่าจะสามารถส่งต่อกิจการให้กับเจนสี่ได้ ถ้ามีความซื่อสัตย์กับธุรกิจของตัวเองอยู่ต่อไป” คุณนัฐธารี บอกมั่นใจ