เปิดแนวทางการฉีดวัคซีน ไข้หวัดใหญ่-โควิด ฉีดก่อน-หลังยังไงบ้าง?

เปิดแนวทางการฉีดวัคซีน ไข้หวัดใหญ่-โควิด ฉีดก่อน-หลังยังไงบ้าง?

หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไปบ้างแล้วประกอบกับมีการเริ่มทยอยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในเวลาคาบเกี่ยวกัน อาจทำให้ประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะต้องรับการฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด เกิดความสับสนได้ว่า ตัวไหนควรฉีดก่อนหรือหลัง

เพจ กรมควบคุมโรค ได้เผยแพร่อินโฟกราฟิก ให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจในการฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ดังนี้

หากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปแล้ว ให้เว้นระยะการฉีด 1 เดือน ก่อนเริ่มฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มแรกและเข็มที่ 2

หรือกรณีที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ก็ให้เว้นระยะเวลาออกไปก่อน 1 เดือนจึงจะเริ่มฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้

กรณีได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ทางสายด่วนควบคุมโรค แนะนำว่า ให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกก่อนได้เลย จากนั้นเว้นระยะ 1 เดือน จึงค่อยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แล้วจึงตามด้วยการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 เมื่อมีวัคซีนเข้ามาเพิ่ม หรือหากวัคซีนเข้ามาเร็ว ให้เว้นระยะหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ออกไปอย่างน้อย 30 วัน ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2

ในกรณีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค ได้แจ้งว่า ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคโควิด-19 มาก่อน แม้จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกาย แต่ยังมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้นจึงควรได้รับวัคซีนโควิด-19 เสมอแม้ว่าจะเคยเป็นโรคโควิด-19 มาก่อนก็ตาม ดยเว้นระยะห่างจากการติดเชื้อไปอย่างน้อย 3 เดือน และไม่จำเป็นต้องตรวจการติดเชื้อก่อนฉีดวัคซีน เพราะแม้จะเคยเป็นมาก่อน ก็ไม่ทำให้มีอันตรายจากการฉีดวัคซีน โดยอาจพิจารณาให้ฉีดเพียง 1 เข็ม เพราะจะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีมากอย่างเพียงพอ