เผยแพร่ |
---|
นันยาง เผยโฉม รองเท้ารุ่นพิเศษ พร้อมปรับแผนรับมือเลื่อนเปิดเทอม
วันที่ 20 พ.ค. 2564 นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ ตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนก็เช่นกัน ต้องอาศัยการปรับตัวในทุกขั้นตอน เพื่อให้ภาพรวมธุรกิจยังไปต่อได้อย่างมีเสถียรภาพ แม้จะมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนหรือยังคงจัดรูปแบบการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ก็ตาม
โดยนันยาง ได้ปรับแผนธุรกิจ ให้สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่มาตรการป้องกันโควิดของบุคลากร การวางแผนการจัดเตรียมวัตถุดิบให้สอดคล้องกับการผลิตสินค้า และให้สอดคล้องกับการขายสินค้าในช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป การจัดสรรสินค้าในแต่ละช่องทางขายอย่างเหมาะสม
รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ ‘Nanyang Have Fun’ สำหรับเด็กประถมแถมฟรีเชือกยืดหยุ่นทำให้ไม่ต้องผูกเชือก ลดการสัมผัสเชื้อโรค สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรองเท้านักเรียนประถม

นายจักรพล กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนของเมืองไทย นันยาง ยังคงตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นส่วนหนึ่งของโลกวัยเรียน ด้วยการนำ customer insight ที่ได้มาสร้างสรรค์เป็นแคมเปญพิเศษ “บูลลี่ในโรงเรียน หยุดได้ด้วยนักเรียน” เพื่อหยุดปัญหาการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน
“เมื่อโควิดคลี่คลายลง นักเรียนจะเริ่มกลับไปเรียนที่โรงเรียน แต่เหตุการณ์รุนแรงจากการแกล้ง (bully) กันในโรงเรียนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจไปตลอดชีวิต อาจส่งผลให้ผู้ถูกกระทบเป็นโรคซึมเศร้าจนถึงฆ่าตัวตาย โดยประเทศไทยมีการบูลลี่ในโรงเรียนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก” นายจักรพล กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ซึ่งนันยางเชื่อว่า ปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียนสามารถแก้ไขและป้องกันได้ทันที โดยเริ่มจากนักเรียนรุ่นใหญ่ที่อยู่ในทุกโรงเรียนร่วมกันดูแลเพื่อนๆ ซึ่ง “คนรุ่นใหญ่” มักจะมีรูปร่างและเท้าที่ใหญ่ เป็นที่มาของการออกแบบรองเท้าผ้าใบนันยางรุ่นพิเศษ “นันยาง รุ่นใหญ่ ANTI-BULLY edition” ที่รวบรวมข้อความจากผู้ที่ต้องการให้รุ่นใหญ่ ช่วยหยุดปัญหานี้จากโซเชียลมีเดีย นำมาเขียนบนพื้นรองเท้าไซซ์ใหญ่ โดยจะถูกกระจายสู่ตลาดพร้อมกับรองเท้านันยางรุ่น 205-S แบบปกติ ขนาด 42-49

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายในปี 2564 ของ นันยาง นั้น นายจักรพล กล่าวว่า “นันยางยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า โดยตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่าความต้องการใช้รองเท้าผ้าใบนันยางยังคงมีอยู่ตามปกติ ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด และยังคงแผนการผลิตสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการของนันยางในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และพบว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานศึกษาจะเลื่อนการเปิดเทอมส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรองเท้านักเรียน แต่คาดว่าสุดท้ายแล้วผู้บริโภคก็ยังให้ความสนใจสินค้านันยางเช่นเดิม เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมผู้บริโภคก็จะกลับมาซื้อสินค้าตามปกติ จึงน่าจะส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2564 ของนันยางเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”