อยากย้ายประเทศ ไปทำงาน สายนวดบำบัด ที่อเมริกา ต้องเริ่มต้นอย่างไร

อยากย้ายประเทศ ไปทำงาน สายนวดบำบัด ที่อเมริกา ต้องเริ่มต้นอย่างไร
อยากย้ายประเทศ ไปทำงาน สายนวดบำบัด ที่อเมริกา ต้องเริ่มต้นอย่างไร

อยากย้ายประเทศ ไปทำงาน สายนวดบำบัด ที่อเมริกา ต้องเริ่มต้นอย่างไร

สมาชิกกลุ่มเพจ โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย ผู้ใช้ชื่อว่า Pannee Uthairak โพสต์ข้อมูลน่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการไปทำงาน สายนวด ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบอกว่า หมอนวด ในสหรัฐฯ มีสถานะเป็น healthcare professionals  ยิ่งใครทำ medical massage นี่คือ essential worker สามารถทำงานได้ในช่วง lockdown และมีสิทธิ์ได้วัคซีนในเฟสแรกพร้อมกับบุคลากรแพทย์ จริงๆ ถ้าจะเรียกกันให้ถูกต้องเรียกว่า massage therapist แปลเป็นไทยได้ว่า นักนวดบำบัด ถ้าเผลอไปใช้ masseuse หรือ หมอนวด อาจโดนชักสีหน้าใส่แล้วสวนกลับมาว่า please use the correct terminilogy ได้

ทั้งนี้ มีหลายคนเข้าใจว่า ถ้าจะย้ายประเทศ แค่ไปลงเรียนนวดให้อะไรก็ได้มาสักคอร์สเพื่อที่จะเอาใบประกาศ 1 ใบมาเป็นใบเบิกทางหางานที่สหรัฐฯ ก็ได้แล้ว นั้น เป็นความเข้าใจผิดมาก หรือ บางคนที่มีประสบการณ์ทำงานสายนี้อยู่แล้วและกำลังพยายามหาลู่ทางสมัครงาน ติดต่อนายจ้างมาจากเมืองไทย ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน เพราะที่สหรัฐฯ มีข้อกำหนดเรื่องใบประกอบวิชาชีพนวดโดยเฉพาะ (massage license)

ประกอบกับสายงานนวดไม่จัดอยู่ในสายที่ขาดแคลน การที่จะให้นายจ้างเป็นสปอนเซอร์เพื่อขอวีซ่าทำงาน H1B มาจึงเป็นไปไม่ได้เลย และเนื่องด้วยข้อจำกัดที่ต้องยื่นขอไลเซ่นส์ในแต่ละรัฐที่กำหนดชั่วโมงเรียนไม่เท่ากันอีก หากไปเจอใครที่บอกว่ามาได้เลย พร้อมทำวีซ่าให้ ขอให้รู้ว่าคุณกำลังถูกหลอก หรือ เขาอาจบอกไม่หมด

ผู้ใช้ชื่อว่า Pannee Uthairak บอกต่อว่า การที่จะทำงานนวดได้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ต้องมี เอกสารสำคัญต่างๆ ดังนี้

หนึ่ง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (Massage License) ถึงจะเรียนหลักสูตรอะไรมาจากเมืองไทยก็แล้วแต่ จะเอามาใช้ที่นี่ไม่ได้ ต้องเรียนจากโรงเรียนที่รัฐให้การรับรองเท่านั้น จำนวนชั่วโมงเรียนก็แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ตั้งแต่ 500-1,000 ชั่วโมง และ out of country education ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้ อาจจะมีบางรัฐที่ให้ อันนี้ต้องไปดูระเบียบข้อบังคับแบบจำเพาะเจาะจงของ state board ในรัฐที่จะไปอยู่ แต่หากมีพื้นฐานมาบ้าง โดยเฉพาะนวดไทย จะเป็นข้อได้เปรียบเมื่อสอบผ่านมีใบของที่นี่แล้ว

สอง มีสถานะที่สามารถทำงานได้แบบถูกกฎหมาย เช่น เป็นผู้พักอาศัยถาวร (permanent resident หรือ green card) หรือ เป็นพลเมือง เป็น American citizen อยู่แล้ว เป็นต้น ถ้าเป็นต่างด้าว ต้องมีใบอนุญาตทำงาน work authorization หรือที่เรียกกันติดปากว่า work permit

สาม มีใบ CPR ผ่านคอร์สปฏิบัติการกู้ชีพฉุกเฉิน ซึ่งต้องสอบอบรมทุกๆ 2 ปี

สี่ มี Liability/Malpractice insurance คือ ประกันวิชาชีพที่ต้องซื้อเป็นรายปี ไว้คุ้มครองค่าเสียหายในกรณีถูกลูกค้าฟ้องร้อง เวลาสมัครงานที่ไหนนายจ้างจะถามหาทุกที่ค่ะ ผู้ประกันต้องซื้อเอง

ห้า ผ่านคอร์สอบรมอื่นๆ แล้วแต่ข้อกำหนดจำเพาะของแต่ละรัฐ เช่น Pennsylvania ให้อบรม Child abuse FL ให้อบรม Human Trafficking เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เป็นต้น

หก มีการตรวจสอบลายนิ้วมือ และ ประวัติอาชญากรรม ต้องผ่าน Background check

“หากผ่านด่านทั้ง 6 ข้อได้แล้ว จะรู้ว่าสายงานนวดในอเมริกามีกว้างมาก และเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ เมื่อจบและสอบได้ใบแล้ว จะไปทำงานที่ไหนก็ได้แล้วแต่ความถนัด นักนวดบำบัดที่นี่ สามารถเลือกทำงานได้หลากหลาย ใครชอบอยากไปสายสวยๆ งามๆ ชอบแบบผ่อนคลายไปอยู่สปา ไม่อยากเป็นลูกจ้างจะเปิดร้านรับลูกค้าเองเป็น self employed ก็ได้ หรือจะเป็น independent contractor เลือกรับงานเป็นจ๊อบๆ ช่วงสั้นๆ สัญญาจ้าง แล้วแต่ตกลงก็ได้อีก อย่างพวกทำงานกับทีมนักกีฬาอาชีพว่าจ้างกันเป็น season มีถมเถ จะไปแนวซีเรียสจริงจังเป็นสาย medical อยู่คลินิกทำงานกับหมอกายภาพ หมอจัดกระดูก/ฝังเข็ม ทำงานโรงพยาบาลได้หมดค่ะ” เจ้าของโพสต์ ระบุ

และว่า หากใครที่สนใจแบบจริงจังอยากทราบข้อมูลเชิงลึกของแต่ละรัฐ รัฐไหนเรียนกี่ชั่วโมง เท่าไหร่ เชิญขอเข้าร่วมกลุ่มได้ที่นี่ค่ะ https://www.facebook.com/groups/498186920342467/ กลุ่มนี้มีแอดมินและสมาชิกกระจายครอบคลุมอยู่เกือบทั่วทุกรัฐในอเมริกา สามารถช่วยให้ข้อมูล รวมทั้งพูดคุยแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้ตลอดเวลา