อาชีพเสริม ทำ อาลัวเรโทร ขายได้ กินง่าย อร่อยด้วย ไม่ต้องยกมือไหว้

อาชีพเสริม ทำ อาลัวเรโทร ขายได้ กินง่าย อร่อยด้วย ไม่ต้องยกมือไหว้

ยามนี้ระลอก 3 ทำพิษ เลยต้องหยุดอยู่บ้านช่วยชาติกันเป็นแถว เที่ยวนี้อยู่กันแบบใจตุ๋มใจต๋อม วันใดเราจะติดหว่า มันมาเยี่ยมข้างบ้านแล้ว ทำให้เกิดอาชีพเสริมหลากหลาย ขายของออนไลน์กันมากมาย หลายคนว่างๆ มีไอเดียบรรเจิดออกมาให้ชื่นชม หรือบางทีก็งงๆ อยู่

ที่ฮือฮาล่าสุด มีขนมอาลัวรูปทรงเป็นพระเครื่อง จะกินทีอาจต้องยกมือไหว้ก่อน

การทำอะไรแปลกใหม่ เป็นเรื่องปกติของการขายของ เพราะถ้าเราขายของเหมือนกับคนอื่นเขาจะขายได้ยังไง เพียงแต่ว่าความแปลกใหม่นั้นเมื่อออกมาสู่สังคมแล้ว คนในสังคมมีความคิดเห็นอย่างไร ยอมรับได้แค่ไหน ถ้าเป็นที่ชื่นชอบก็กลายเป็นกระแสความนิยมได้ระยะหนึ่ง เมื่อหมดแรงกระแสแผ่วลงไป ต้องหาอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาทำอีก

ของโฉบเฉี่ยวตามแฟชั่นจึงไปเร็วมาเร็ว คนอีกกลุ่มหนึ่งจึงขุดของโบราณๆ ขึ้นมาขาย เป็นการสร้างกระแสของเก่าเอามาโชว์ใหม่ ซึ่งความนิยมค่อนข้างจะอยู่นานกว่าของโฉบเฉี่ยว ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า retrostyle เรียกสั้นๆ ว่า เรโทร แปลว่า ย้อนหลัง ย้อนยุค มักจะใช้ใส่นำหน้าคำอื่น เช่น retro camera คือ กล้องที่มีรูปทรงย้อนยุค แต่ข้างในเป็นกล้องดิจิตอลทันสมัยล้วน เสื้อผ้าเรโทร ย้อนไปเอาแฟชั่นสมัยคุณปู่คุณย่ามาดัดแปลง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ขนมอาลัว เช่นเดียวกัน เป็นขนมโบราณที่ไม่มีใครกล้ายืนยันที่มาอย่างชัดเจน รู้แต่ว่าไม่ใช่ขนมไทยแท้แต่โบราณ เพราะใช้แป้งสาลีมาผสมกับกะทิ ถ้าเป็นขนมไทยๆ ดั้งเดิมเราใช้แต่แป้งข้าวเจ้ากับแป้งข้าวเหนียว เพราะเราปลูกแป้งสาลีไม่ได้ หลายคนเลยยกให้เป็นขนมเชื้อสายโปรตุเกส ท้าวทองกีบม้า เป็นคนประดิษฐ์ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ได้แต่พูดกันไปพูดกันมา

เท่าที่เคยหาเจอมีขนมสองชนิดของท้าวทองกีบม้า ที่มาจากโปรตุเกสแน่ๆ คือ ฝอยทอง ทำจากไข่เป็นฝอยเหมือนกัน เขาใช้ชื่อว่า Fios de Ovos หน้าตาเหมือนกัน อีกอย่าง คือ ลูกชุบ ตำรับเขาใช้ถั่วอัลมอนด์กับนม ของเราใช้ถั่วเขียวลอกเปลือกกับกะทิแทน โปรตุเกสใช้ชื่อว่า Massapaes หน้าตาปั้นเป็นรูปผลไม้แบบเดียวกับของไทย ไปเปิดตำราแม่ครัวหัวป่าก์ พบตำราลูกชุบสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ปั้นเป็นลูกผลไม้ ไม่ใส่สี ชุบไข่แดงแบบเดียวกับเม็ดขนุน

ขนมอาลัว

ส่วนอาลัว หาเท่าไหร่ยังไม่เจอ บ้างว่ามาจากขนม Halva ของคนตะวันออกกลาง ใส่เครื่องเทศ แป้ง น้ำตาล กวนแล้วใส่ถาดตัดเป็นชิ้น เป็นขนมหวานๆ แต่หน้าตาไม่เหมือนอาลัวไทย

หน้าตาขนมอาลัวเรโทร ต้องเป็นรูปก้อนทรงกลม ก้นแบน มียอดแหลมๆ ผิวนอกกรอบ จากการตากแดด ข้างในเยิ้มค่อนข้างเหลว มีสีสันต่างๆ รวมทั้งกลิ่นกาแฟ กินแล้วมันจะกรอบนอกนุ่มใน มันกะทิ และหวานจนแสบแน่นอน ทรงอย่างนี้ยังหาซื้อได้แถวอยุธยา เพชรบุรี

ขอบอกว่ารูปแบบดั้งเดิมนี่แหละที่กินแล้วอร่อยที่สุด ไม่สวยแต่กินอร่อย ด้วยความที่มันไม่สวย แม่ค้าอยู่ไม่สุขเลยบีบอาลัวเป็นเม็ดเล็กๆ หยอดเหมือนเม็ดมะยมย่อมๆ น่ารัก สวย แต่ด้วยความที่มันเม็ดเล็ก พอมันแห้งแล้วเลยค่อนข้างแข็งไปหมดทั้งเม็ด กินอร่อยสู้แบบต้นตำรับไม่ได้ ยุคไม่นานมานี้อาลัวก็มีคนพัฒนาใช้หัวบีบดอกกุหลาบที่แต่งหน้าเค้กมาหยอดเป็นอาลัวดอกกุหลาบ สวยงามมากมาย อาลัวทรงตุ๊กตาโดเรม่อน คิตตี้ ก็มีคนทำ

ผมเข้าไปดูวิดีโอการทำแล้วต้องกลั้นหายใจทำ หยอดแต่งทีละนิดกว่าจะได้ตัวนึง ล่าสุดเป็นทรงพิมพ์พระเครื่องนั่นแหละ ยังนึกชมอยู่ในใจ เขาเอาแป้งอาลัวเหลวๆ เหนียวๆ มาทำเป็นรูปพระเครื่องได้อย่างไร มันติดหนุบหนับไปหมด อาจจะหยอดเป็นก้อนกลมรอแห้งหน่อย แล้วค่อยใส่พิมพ์พระเครื่อง กดมาเป็นรูปพระเครื่อง ต้องรอเจ้าตำรับอาลัวพระเครื่องนั่นแหละมาเฉลย

สูตรอาลัว พื้นฐาน คือ การกวนแป้ง กะทิ น้ำตาล ให้หนืดๆ พอใส่ถุงบีบเป็นก้อนได้ การกวนแบบไทยเราต้องกวนในกระทะทอง ซึ่งกลายเป็นของขึ้นชื่อของเมืองไทยไปแล้ว แต่กระทะทอง เชื้อสายน่าจะมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะตะวันออกกลาง ไปดูของโปรตุเกสเขามีกระทะทองใช้เหมือนกัน กระทะทองมีความพิเศษกว่ากระทะเหล็กตรงที่มันร้อนเร็ว ร้อนทั่วกระทะ เลยกวนได้สุก แห้งเร็ว

ขนมอาลัว

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ½ ถ้วย

หัวกะทิ                          3 ถ้วย

น้ำตาลทราย                  2 ถ้วย

สีผสมอาหาร หรือสีจากธรรมชาติ โกโก้ กาแฟ โอวัลติน

ร่อนแป้งก่อน 2 ครั้ง ใส่น้ำตาลลงผสมในกระทะทอง ค่อยๆ ใส่หัวกะทิลง ใช้มือนวดจะได้รู้ด้วยว่าน้ำตาลละลายหรือยัง แล้วใส่หัวกะทิที่เหลือ กรองด้วยผ้าขาวบางอีกที สูตรหนึ่งทำสักสีหนึ่ง อีกสูตรค่อยใส่อีกสี  ตั้งไฟกลาง กวนเร็วๆ ขูดให้ทั่วกระทะ กวนจนเหนียวติดพายไม้แล้วไม่หยด พักให้เย็นหน่อย เอาไปใส่ถุงบีบ เอาทรงโบราณ ไม่ต้องใส่หัวบีบ แค่ตัดปลายถุง ให้พอบีบได้ บีบใส่ถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว บีบเป็นก้อนกลมดึงขึ้นมันก็จะเป็นยอดแหลมๆ งอๆ ตามพิมพ์นิยม ส่วนหัวบีบกุหลาบ มะยม มีขายตามร้านเครื่องทำขนม ทำตามอัธยาศัย

ย้อนยุค

ทำขนมอาลัวต้องมีแดดดีๆ เอาไปตากสักสองแดดก็ใช้ได้ ถ้าแดดไม่แรงผิวจะไม่กรอบ ข้างในไม่เยิ้ม ถ้าแดดอ่อนหลายแดดข้างในแห้งไปด้วยไม่อร่อย เครื่องตากแห้งที่เป็นชั้นๆ มีขดลวดความร้อนนำมาใช้ได้ ยามไม่มีแดด เตาอบไม่ค่อยดีแม้ว่าจะหรี่ไฟเหลือแค่ 100 องศาเซลเซียส เพราะข้างในข้างนอกมันแห้งไปหมด

ย้อนยุค ทำอาลัวเรโทร ขายได้ กินง่าย อร่อยด้วย ไม่ต้องยกมือไหว้จ้ะ