ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เทคนิคการตั้งราคาขายอาหารดีลิเวอรี่ บนแพลตฟอร์มทุกยี่ห้อ ทำยังไงให้มีกำไร
คุณแจ็ค Duangtawan Kesorn เจ้าของร้านอาหาร เตี๋ยวกะเพรา โพสต์แบ่งปันประสบการณ์ การขายอาหารดีลิเวอรี่ ที่ค่า GP แทบกินกำไรไปเกือบหมด แต่เขามีวิธีคิด วิธีทำ มีกำไรเข้าตลอดๆ
“เมนูกะเพราหมูกรอบ ต้องรู้ว่าเมนูนี้ใส่อะไรบ้าง ใส่เท่าไหร่ ต้องหาต้นทุนที่แท้จริงให้ได้ โดยเฉพาะหมูกรอบ” คุณแจ็ค เผยหลักคิดเบื้องต้น
และบอกต่อ ถึงการคำนวณต้นทุน หมูกรอบ ก่อนตั้งราคาขาย คือ ต้องรู้ก่อนว่า หมูสามชั้น 5 กิโล ต้ม ตาก ทอด แล้ว จะเหลือแค่ 3 กิโล นั่นหมายความว่า ซื้อหมูสามชั้นมา กิโลละ 200 บาท ก่อนต้มลงทุนเงิน 1,000 บาท พอได้ หมูกรอบ 3 กิโล ต้นทุนหมูกรอบ จึงอยู่ที่ 333.33 บาท ทันที
“นี่ยังไม่รวมของสูญเสียอีกนะครับ บางร้านทอดมาได้ 3 กิโล ตัดส่วนไม่สวยทิ้งอีก 500 กรัม แสดงว่าหมูกรอบ 1,000 บาท เราใช้ได้จริงๆ แค่ 2.5 กิโลเองนะครับ ราคาหมูกรอบขึ้นไปเป็นกิโลละ 400 บาท ทันที” คุณแจ็ค แจงอย่างนั้น
ก่อนบอกถึง การตั้งราคาขายในแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ ที่หลายคนสงสัยว่าควรเป็นเท่าไหร่นั้น เขาใช้เทคนิคการตั้งราคา อยู่ 3 วิธี
หนึ่ง บวกราคาขึ้นมาจากหน้าร้าน 35% ถ้าหากเป็นเมนูนี้ที่ขายได้ ขายดี ลูกค้าสั่งเยอะ ไม่รู้สึกว่าแพงไป ให้เน้นขายเมนูนั้น จะทำให้ขาดทุนกำไรน้อยที่สุด แต่ถ้าขายได้น้อย หรือขายไม่ได้เลย แนะนำให้ลดค่าคอมฯ ลง หรือตัดออกจากเมนูไปเลย
สอง บวกราคาขึ้นมาจากหน้าร้าน 30% กลยุทธ์นี้ เขาเลือกใช้มากที่สุด เป็นตัวเลขที่เจ็บตัวไม่มาก และลูกค้ายอมรับได้ กำไรหายไป 10% คิดเสียว่าเป็นค่าดำเนินการของพาร์ตเนอร์
และ สาม บวกราคาขึ้นมาจากหน้าร้าน 20% วิธีนี้ลูกค้าชอบและให้ตอบรับดีมาก แนะนำเป็นเมนูพิเศษ เมนูสร้างกระแส คิดเสียว่าเป็นค่าดำเนินการ ค่าเช่าสถานที่ ค่าขนส่ง ค่าการตลาด กำไรน้อยแต่อาจได้ปริมาณลูกค้าเยอะขึ้น
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2021