แกร็บ คุมเข้ม คนขับฟู้ดดีลิเวอรี่ หากพบติดโควิด สั่งหยุดงาน จ่ายเงินชดเชย 

แกร็บ คุมเข้ม คนขับฟู้ดีลิเวอรี่ หากพบติดโควิด สั่งหยุดงาน จ่ายเงินชดเชย 
แกร็บ คุมเข้ม คนขับฟู้ดีลิเวอรี่ หากพบติดโควิด สั่งหยุดงาน จ่ายเงินชดเชย 

แกร็บ คุมเข้ม คนขับฟู้ดดีลิเวอรี่ หากพบติดโควิด สั่งหยุดงาน จ่ายเงินชดเชย 

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความในโซเชียลมีเดียจนเกิดเป็นข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดดีลิเวอรี่ แกร็บ ประเทศไทย ได้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และขอชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้มีมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพาร์ตเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารและพัสดุอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานภาครัฐ หรือเมื่อได้รับการติดต่อจากพาร์ตเนอร์คนขับว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริษัทฯ จะทำการระงับสัญญาณทันที และจะร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลัง รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการเปิดระบบกลับมาอีกครั้ง หากได้รับเอกสารยืนยันผลการตรวจเป็นลบเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ พาร์ตเนอร์ยังสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อรับเงินชดเชย ซึ่งครอบคลุมถึงค่าตรวจโรคโควิด-19 มูลค่า 500 บาท เงินชดเชยรายได้ 2,000 บาทในกรณีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ และเงินชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 15 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในที่มีสาเหตุจากการติดโรคโควิด-19

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริการการเดินทาง และบริการรับ-ส่งอาหารและพัสดุ ภายใต้โครงการ “แกร็บแคร์” ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 อาทิ

  • แนะนำให้พาร์ตเนอร์คนขับ ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหมั่นทำความสะอาดยานพาหนะ 
  • การใช้มาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส เว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตร รวมถึงการรอรับอาหารที่ร้านจะต้องยืนห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร 
  • การส่งเสริมให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการผ่านบัตรหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 
  • ใช้ระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอพพลิเคชั่น พาร์ตเนอร์คนขับทุกคนต้องทำแบบประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอาการป่วยจากโรคโควิด และจะต้องถ่ายภาพเซลฟี่ขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัพโหลดภาพผ่านระบบ เพื่อยืนยันตัวตนก่อนให้บริการในทุกวัน