ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. เปิดแนวโน้มการเพิ่ม-ลด ของราคาสินค้าเกษตร พ.ค. 64

ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. เปิดแนวโน้มการเพิ่ม-ลด ของราคาสินค้าเกษตร เดือนพฤษภาคม 64

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤษภาคม 2564 โดย สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่

ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 12,037-12,100 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.53-2.06 เนื่องจากราคาส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งขัน อาทิ ราคาข้าวหอมผกามะลิจากกัมพูชา ส่งผลให้ประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มการนำเข้าข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้น

ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 11,006-11,142 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.73-2.99 เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเหนียวนาปรังออกสู่ตลาดไปแล้ว และสต๊อกข้าวเหนียวของผู้ประกอบการเริ่มลดลง

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 8.12-8.36 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 2.50-5.50 เนื่องจากเป็นช่วงเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่นที่ 1 ช่วงต้นฤดูฝน (เดือนเมษายน-มิถุนายน) ปริมาณผลผลิตจึงออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ยังเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่ยังขยายตัวได้ดี

น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 16.92-17.14 เซนต์/ปอนด์ (11.71-11.86 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.20-2.50 เนื่องจากความกังวลต่อปริมาณผลผลิตน้ำตาลทั่วโลกที่คาดว่าจะลดลงจากปัญหาสภาพอากาศ โดยสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้พื้นที่ปลูกชูการ์บีท (Sugar Beet) ของประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปได้รับความเสียหาย และสภาพอากาศที่แห้งแล้งในประเทศบราซิลทำให้ปริมาณอ้อยลดลง

กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 156.06-157.90 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 2.00-3.20 เนื่องจากผลผลิตกุ้งออกสู่ตลาดน้อยจากการที่เกษตรกรชะลอการลงลูกกุ้งในช่วงก่อนหน้านี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ยังไม่กระทบต่อคำสั่งซื้อและการส่งออกไปประเทศคู่ค้าสำคัญ ประกอบกับแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลดีต่อการส่งออกกุ้งมีชีวิตและกุ้งสดแช่เย็นของไทย

สุกร ราคาอยู่ที่ 77.69-78.84 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.88-2.24 เนื่องจากประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นตลาดส่งออกสุกรมีชีวิตอันดับ 1 ของไทย ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการนำเข้าสุกรจากไทย และผู้ส่งออกสุกรมีแผนการส่งออกไปประเทศเวียดนามมากขึ้น ส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกสุกรมีชีวิตได้มากขึ้น

โคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 98.33-98.40 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.01-0.08 เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อโคทั้งภายในประเทศและเพื่อการส่งออกยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลผลิตเนื้อโคอาจลดลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในโคและกระบือ

ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่  ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 8,997-9,061 บาท/ตัน ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.76-1.47 เนื่องจากประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก มีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นและปริมาณข้าวในสต๊อกอยู่ในระดับสูง ทำให้มีปริมาณข้าวส่วนเกินที่ระบายออกสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก

ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 52.85-53.55 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.56-2.85 เนื่องจากปริมาณยางพาราจากการประมูลสต๊อกยางพาราเก่าออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงงานกดราคารับซื้อยางพาราจากเกษตรกร

มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.05-2.10 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.47-2.88 เนื่องจากลานมันเส้น เริ่มทยอยปิดลานรับซื้อผลผลิตมันสำปะหลังที่ออกสู่ตลาด ส่วนใหญ่จะถูกจำหน่ายไปยังโรงงาน แป้งมันสำปะหลัง จึงเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาปรับตัวลดลง

ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 4.34-4.77 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.24-10.15 เนื่องจากเป็นช่วงที่ปริมาณผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และคาดว่าในเดือนพฤษภาคมจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดประมาณ 1.99 ล้านตัน คิดเป็น ร้อยละ 12 ของปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันทั้งปี 2564