เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก
เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ผลการรับมือสถานการณ์จากประเทศฝั่งเอเชียถือว่าทำได้ดี ผลครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อไปในทั่วโลก ที่เข้าสู่ยุคใหม่ที่เอเชียเป็นผู้นำ ดังที่เห็นในภาคธุรกิจของประเทศไทยในปีที่ผ่านมา การเร่งสปีดเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างกะทันหันท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมที่เปลี่ยนไป การทำการตลาดในรูปแบบเดิมๆ จึงไม่สามารถช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดหรือเติบโตต่อไปได้แล้วในปัจจุบัน

ด้วยเหตุผลนี้ LINE ประเทศไทย จึงได้เผย 4 เทรนด์การทำธุรกิจในไทย ในวันที่หลักสากลอาจไม่ใช่หนทางการเติบโตที่เห็นผลชัด แต่เอเชีย คืออนาคตใหม่ของเศรษฐกิจโลก 

  1. ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ Advanced Data Marketing
เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก
เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

Data is New Oil ยังคงเป็นหลักในการทำการตลาดออนไลน์อยู่เสมอ แต่เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันบนโลกดิจิทัลอย่างแท้จริงในปีนี้ การทำ Data Marketing เพียงผิวเผิน โดยไม่มีการสร้างฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตนเอง จะยิ่งกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญในการเติบโตบนโลกดิจิทัล ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ จะหันมาให้ความสำคัญกับการมีข้อมูลของลูกค้าเป็นของตนเอง (1st Party Data) โดยต้องเป็นข้อมูลที่ลูกค้าอนุญาต ด้วยการสร้าง CDP หรือ Customer Data Platform เป็นของตนเอง เพื่อเดินหน้าสู่การทำ ‘Advanced Data Marketing’ ยกระดับโครงสร้าง ระบบการทำธุรกิจบริการในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำสู่วิถีดิจิทัล ไม่ใช่เพื่อการสื่อสาร การตลาดเพียงอย่างเดียว โดยใช้ดาต้ามาพัฒนาตั้งแต่ระบบภายในองค์กรสู่ Cross-Functional Integration คือการ Sync หรือแชร์ดาต้าภายในแผนกต่างๆ ร่วมกันได้ดีกว่าเดิม ต่อยอดไปถึงการพัฒนา Co-Brand Campaign ให้แม่นยำมากขึ้น รวมไปถึงการนำเอาดาต้ามาวางแผน Customer Journey ที่เชื่อมต่อทุก Touchpoint ของธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างประสบการณ์อันไร้รอยต่อให้กับลูกค้า

ตัวอย่างแบรนด์ที่เริ่มสร้าง CDP และมีการนำดาต้ามาสร้าง Journey ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น Starbucks และ Central ที่มีการใช้ข้อมูล 1st Party Data ที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าผ่าน LINE Official Account มาเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลลูกค้าของตนเองจากช่องทางต่างๆ มาสร้างประสบการณ์การใช้งานของสมาชิกแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

2. Localize และ Personalize คีย์หลักกลยุทธ์ที่ใช่สำหรับคนไทย

เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก
เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

แบรนด์เริ่มเปลี่ยนไปเน้นเรื่องคุณภาพของกลุ่มเป้าหมายแทนปริมาณ ในขณะที่กลยุทธ์การตลาด การยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มเดิม ด้วยสูตรเดิมๆ อาจให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ หรือมีประสิทธิภาพน้อยลง การ ‘สร้าง’ กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่ใช่สำหรับคนในแต่ละพื้นที่และ ‘ถูกจริต’ โดนใจกลุ่มเป้าหมาย แม้จะได้จำนวนน้อยแต่มีคุณภาพ เห็นได้จากแบรนด์ดังระดับโลก ที่เริ่มละทิ้งแพตเทิร์นเดิม มาสู่การสร้างช่องทาง วางกลยุทธ์ Chat Commerce เจาะตลาดไทยโดยเฉพาะ ด้วยการเปิด LINE Official Account และลงโฆษณาใน LINE เพื่อเข้าถึงคนไทย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ CHANEL, Dior, Louis Vuitton ไปจนถึงแบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz, Volvo และ BMW ฯลฯ 

3. ลงสนาม LIVE Commerce ผสานความบันเทิงแบบ Shoppertainment

เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก
เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชียคืออนาคตใหม่ แห่งเศรษฐกิจโลก

การขายของผ่านไลฟ์ ยังเป็นการขายของที่มีเสน่ห์โดนใจคนในแถบเอเชีย สำหรับไทย SMEs อาจเห็นการลงทำ LIVE Commerce มาแล้วมากมาย แต่มีแบรนด์ใหญ่เพียงบางรายเพิ่งเริ่มลงสนามบนช่องทางของตนเองอย่างจริงจัง เช่น แบรนด์ Homepro ที่ลงสนาม LIVE Commerce ผ่าน LINE Official Account ด้วยยอดวิวเฉลี่ยหลักแสน และยอดขายจาก LIVE ที่พุ่งขึ้นสูงกว่าที่ได้จากช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ

นอกจากนี้ การทำไลฟ์ขายของที่ผสานความบันเทิง วาไรตี้ได้อย่างลงตัวหรือที่เรียกว่า Shoppertainment ถือเป็นเทรนด์การทำ LIVE Commerce ที่เหมาะกับคนไทยและจะเห็นมากขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่าแบรนด์จะมองหาลูกเล่นมาสร้างสีสัน ความสนุกในโลกของ LIVE Commerce มากขึ้น และ Shoppertainment จะกลายเป็นรูปแบบหลักที่ผลักดันให้ LIVE Commerce เติบโต เห็นได้จากรายการ TuesLive x LINE SHOPPING รายการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ผสานกลิ่นอายวาไรตี้ความบันเทิง ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดวิวทะลุเกิน 5 แสนคนในทุก Ep. และสามารถสร้างยอดขายสูงสุดจากแบรนด์เดียวได้มากถึงหลายแสนบาทภายใน 1 ชม. จาก Ep. ล่าสุดอีกด้วย

4. Trust over Price ผลักดัน Chat Commerce ในไทยเติบโต

เปิด 4 เทรนด์ เดินหน้าธุรกิจไทย เมื่อเอเชี

การพูดคุยถึงรายละเอียดสินค้า บริการกับแบรนด์โดยตรงผ่านแชตแบบ 1:1 นำมาสู่ความไว้เนื้อเชื่อใจในการซื้อสินค้า โดยลูกค้าจะมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้ใจ มากกว่าปัจจัยเรื่องราคา หรือที่เรียกว่า ‘Trust Over Price’ ส่งผลให้การขายของผ่านแชต หรือ Chat Commerce ผ่าน LINE Official Account ในไทยเติบโตเป็นอย่างมาก เห็นได้จากยอดตัวเลขการแชตพูดคุยกับแบรนด์ต่างๆ ผ่าน LINE Official Account ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 73% (เปรียบเทียบระหว่างครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2020) และ MyShop เครื่องมือเสริมประสิทธิภาพการขายของผ่าน LINE Official Account ที่มียอดการเติบโตรายเดือน ของจำนวนร้านค้าที่ใช้งานสูงถึง 48% ในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การสร้างตัวตนของแบรนด์อย่างชัดเจนบนโลกดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสร้าง ‘Trust’ ให้กับลูกค้าท่ามกลางร้านค้ามากมายในโซเชียลต่างๆ อีกด้วย โดย LINE พบว่ายอดการสมัครบัญชีรับรอง หรือ Verified Account จากแบรนด์ต่างๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาเติบโต YoY สูงถึง 38% ชี้ให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ เริ่มเห็นความสำคัญของการสร้างร้านค้า สร้างธุรกิจหรือแบรนด์ตนเองบนโลกออนไลน์อย่างจริงจัง