“รอยล” หนักใจภาคใต้ ปัตตานี น้ำฝน 481 มม. จับตา อีก 7 วัน มาอีกระลอก ไม่พายุ ก็ความกดอากาศต่ำ

วันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานีโทรมาตรวัดปริมาณน้ำฝนโดยอัตโนมัติรายชั่วโมง ของสถาบันสาระสนเทศน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ถึงปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดใกล้เคียง พบว่า เกือบทุกพื้นที่อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดย ต.ป่าพะยอม จ.พัทลุง น้ำฝนสะสม 205.2 มิลลิเมตร(มม.) ต.มะนังดาลำ จ.ปัตตานี 481.6 มม. ต.ตะโละแมะนา จ.ปัตตานี 267 มม. ต.จวบ จ.นราธิวาส 183.8 มม. ต.บางนาค จ.นราธิวาส 307.6 มม. ต.ปาเสมัส จ.นราธิวาส 184 มม. ต.กายูบอเกาะ จ.ยะลา 176.6 มม. ต.พิจิตร จ.สงขลา 265.6 มม. ต.มะนังดาลำ จ.ปัตตานี 283.6 มม. ต.เขาตูม จ.ปัตตานี 209 มม. ต.ขุนทะเล จ.นครศรีธรรมราช 225 มม. ต.บ้านพร้าว จ.พัทลุง 230 มม. ต.สะเตง จ.ยะลา 190.6 มม. ต.ตาเซะ จ.ยะลา 246 มม.

ด้าน นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการ สสนก. กล่าวว่า เวลานี้บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมตอนบนของประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างแล้ว จากนั้นจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันและทวีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล โดยช่วงวันที่ 6-9 ธันวาคม บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันและทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุ จะเคลื่อนตัวไปทางอ่าวเบงกอล แต่ยังคงท้าให้มีลมพัดผ่านภาคใต้เข้าสู่ศูนย์กลางพายุ ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในช่วงวันที่ 6 ธันวาคม ทั้งนี้เฝ้าติดตามการก่อตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำลูกใหม่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีแนวโน้มทวีก้าลังแรงขึ้นและอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง

“ที่เราห่วงคือ อีก 7 วันข้างหน้า โอกาสที่จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำอีกระลอกเข้ามาทางภาคใต้อีกครั้ง เหมือนจะเข้าซ้ำเติมภาคใต้อีกระลอก เรากำลังจับตาการก่อตัวอยู่ ไม่รู้ว่ารุนแรงแค่ไหน แต่คาดว่า ไม่น่าจะรุนแรงเท่าที่ผ่านมา”นายรอยล กล่าว

 

 

ที่มา  มติชน